GPT-4 Turbo เคยเป็นรุ่นเรือธงจนกระทั่งการมาของ GPT-4o “Omni” ซึ่งประกาศเปิดตัวให้เฉพาะสมาชิก ChatGPT Plus เท่านั้น OpenAI กล่าวว่า GPT-4o จะมีราคาครึ่งหนึ่งและมีความเร็วเป็นสองเท่าของ GPT-4 รุ่นเดิม มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ OpenAI พัฒนาขึ้น เช่น Custom GPTs และการเข้าถึง Live Web
GPT-4o มีให้บริการสำหรับผู้ใช้ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย ผู้ใช้ที่เป็นสมาชิกแบบชำระเงินจะได้รับประสิทธิภาพการใช้งาน GPT-4o ถึง 5 เท่า
GPT-4o มีความฉลาดพอ ๆ กับ GPT-4 Turbo ดังนั้นโดยรวมแล้วความก้าวหน้านี้จึงเน้นไปที่ประสิทธิภาพมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม มีความก้าวหน้าที่ชัดเจนและไม่ชัดเจนบางประการที่นอกเหนือไปจากความรวดเร็วและราคาที่ถูกกว่า
GPT-4o ทำอะไรได้บ้าง?
คำยอดฮิตของ GPT-4o คือ “multimodal” ซึ่งกล่าวได้ว่า GPT-4o สามารถทำงานร่วมกับ เสียง รูปภาพ วิดีโอ และข้อความได้ OpenAI บอกว่า ได้ฝึกฝนโครงข่ายประสาทเทียมเดี่ยวในทุกรูปแบบในคราวเดียวกับ GPT-4 Turbo รุ่นเก่า เมื่อใช้โหมดเสียง เพื่อการแปลงคำพูดของมนุษย์เป็นข้อความ จากนั้น GPT-4 จะตีความและตอบสนองต่อข้อความนั้น ซึ่งจากนั้นจะถูกแปลงกลับเป็นเสียง AI ที่สังเคราะห์แล้ว
GPT-4o เป็นรุ่นเดียวซึ่งมีพลังการโต้ตอบที่มีประสิทธิภาพและความสามารถระดับสูง OpenAI เคลมว่า เวลาตอบสนองเมื่อสนทนาด้วย GPT-4o ใช้เวลาเพียงไม่กี่ร้อยมิลลิวินาที ซึ่งใกล้เคียงกับการสนทนาแบบเรียลไทม์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และนี่อาจเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เมื่อถูกนำมาเปรียบเทียบกับรุ่นเก่าที่ใช้เวลาในการตอบสนอง 3-5 วินาที
OpenAI ได้ให้ GPT-4o เป็นตัววัดความสามารถในการประมวลผลเชิงอารมณ์
นอกเหนือจากความคล่องแคล่วที่มากขึ้นแล้ว GPT-4o ยังสามารถตีความองค์ประกอบของคำพูดที่ไม่ใช่คำพูดได้ เช่น น้ำเสียงของมนุษย์ และการตอบสนองของตัวมันเองเชิงอารมณ์ได้อีกด้วย นั่นหมายความ “มันร้องได้ด้วย”
ในการสาธิตล่าสุด GPT-4o แสดงให้เห็นว่ามีการสนทนาแบบเรียลไทม์กับมนุษย์ผ่านวิดีโอและเสียงได้ เช่นเดียวกับการสนทนาผ่านทางวิดีโอกับมนุษย์ “GPT-4o สามารถตีความสิ่งที่เห็นผ่านกล้องได้ รวมถึงสามารถทำการอนุมานได้เฉียบแหลม ซึ่งหมายความว่าสามารถนำความชาญฉลาดไปใช้กับการสนทนาที่ยาวนานขึ้นและข้อมูลปริมาณมากได้
อย่างไรก็ตาม GPT-4o ยังไม่พร้อมให้ใช้งานทั่วไป แต่ OpenAI กล่าวว่า “จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากการประกาศครั้งแรกและการเปิดตัวโมเดลหลัก”
สำรวจบทบาทของ ChatGPT ในการพัฒนา Industry 4.0 สำหรับ Smart Manufacturing
ChatGPT ของ OpenAi หรือ Chatbot กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้ เรามาดูกันว่ามันจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนา Industry 4.0 อย่างไร
การเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักรได้เปลี่ยนแปลงไปในหลายภาคส่วน รวมถึงการผลิตด้วย เมื่อเราเข้าใกล้ Industry 4.0 ซึ่งเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ ความสำคัญของเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น ChatGPT ในการพัฒนาการผลิตอัจฉริยะก็มีความสำคัญมากขึ้น โมเดลภาษา ChatGPT AI ของ OpenAI สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของบริษัทได้อย่างมาก ลดความซับซ้อนของขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมในการพัฒนา Industry 4.0
การผลิตอัจฉริยะ หรือ Smart Manufacturing คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและปรับปรุงการตัดสินใจ
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภาคการผลิต สร้างความโดดเด่นด้วยระบบ cyber-physical, automation และ data interchange เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตใน Industry 4.0 ความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติของ ChatGPT สามารถช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้โดยการปรับปรุงการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการวิเคราะห์ข้อมูล
สรุป คือ หน้าที่ของ ChatGPT ในด้านความก้าวหน้าของ Smart Manufacturing และ Industry 4.0 นั้นมีความหลากหลายและครอบคลุมกว้างขวาง ความสามารถในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล ลดความยุ่งยากในการสื่อสาร และสนับสนุนการฝึกอบรมและการบริการลูกค้า ทำให้เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันในยุคการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
ในขณะที่ AI และ ML หรือการเรียนรู้ของเครื่องจักรก้าวหน้าไป เราอาจคาดหวังว่าจะได้เห็นแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ของเครื่องมือ เช่น ChatGPT เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและวิวัฒนาการของ Smart Manufacturing และ Industry 4.0
ที่มา : https://www.howtogeek.com/what-is-chatgpt-omni-and-how-is-it-different/ และ https://askaichat.app/onboarding-gpt-4