เปิดวิสัยทัศน์ ผอ. ยานยนต์คนใหม่ พลิกโฉมสู่ยานยนต์แห่งอนาคต

ผอ. สยย. เปิดวิสัยทัศน์ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ “พลิกโฉมยานยนต์แห่งอนาคต” สืบเนื่องจากคณะกรรมการสถาบันยานยนต์ได้สรรหาและคัดเลือกผู้อำนวยการคนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง หลังการครบวาระการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ท่านเดิม

ดร. เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสถาบันฯ ให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์คนต่อไป ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ในโอกาสนี้สถาบันฯ จัดให้มีการแถลงข่าวเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมนำเสนอทิศทาง นโยบาย ก้าวต่อไปของ สยย. ภายใต้แนวคิด Reshape the future พลิกโฉมสู่ยานยนต์แห่งอนาคต โดยมีแนวทางการปฏิรูปหน่วยงานและปรับแนวทางการปฏิบัติงานในอนาคตตามนโยบาย Mind ใช้หัวและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน

การเข้ามาของเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการผลิตตามนโยบาย 30@30 คือการตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ภายในปี ค.ศ. 2030 เป็นกลไกที่จะนำพาประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งในปี ค.ศ. 2023 มีการประมาณการตัวเลขการผลิตรถยนต์ในประเทศอยูที่ 1,950,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2022 ถึง 3.53% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1,050,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 900,000 คัน และคาดการณ์ว่าภายใน ปี ค.ศ. 2030 ประเทศไทยการผลิตรถยนต์ที่ 2.4 ล้านคัน แบ่งเป็นรถ ZEV จำนวน 725,000 คัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023 – 2030 ประเทศไทยจะมีอัตราการเจริญเติบโต 3.5% ต่อปี ทำให้ประเทศไทยมีบทบาทในการเป็นฐานการส่งออกเพิ่มมากขึ้น
จากนโยบายดังกล่าว สยย. จำเป็นต้องเกิดการ “Reshape ปฏิรูปงานบริการของ สยย.” พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบ Business Model เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบัน สยย. มีการให้บริการหลัก ดังนี้ บริการทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ตามมาตรฐาน บริการตรวจการทำผลิตภัณฑ์ (IB) และ Free Zone เขตปลอดอากร บริการฝึกอบรม รวมถึงบริการข้อมูลศูนย์สารสนเทศยานยนต์ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ พร้อมจัดทำงานวิจัย เพื่อเสนอแนะชี้นำ และเตือนภัย เพื่อสนับสนุนการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะมีแนวทางการดำเนินงานใหม่ด้วยยุทธศาสตร์ “3 RIBBONS STRATEGY” หรือยุทธศาสตร์โบว์ 3 สี ฟ้า เขียว ขาว


BLUE OCEAN การสร้างนวัตกรรม
2023 – 2030 จะมีการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ และเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจใหม่ พร้อมขับเคลื่อน สยย. ด้วยการทำการตลาดเชิงรุก พัฒนาให้ สยย. เป็นผู้ให้บริการด้านเทคนิค (Technical Service) ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างครบวงจร อาทิ มาตรฐานบังคับ (มอก.)  มาตรฐานกรมการขนส่งทางบก  ASEAN MRA และมาตรฐานตามข้อตกลง 1958 Agreement ของสมาชิก 48 ประเทศ เป็นต้น เพื่อยกระดับการทดสอบของ สยย. ให้ผลการทดสอบเป็นที่ยอมรับในสากล ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไทยตามนโยบายการเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งอนาคต เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาธุรกิจ สร้างนวัตกรรม ด้านวิศวกรรม โดยผู้เชี่ยวชาญ เสริมสร้างความพร้อมด้านการทดสอบด้วยศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อ สู่การเป็นซุปเปอร์คลัสเตอร์ตามยุทธศาสตร์ของประเทศ ทำให้ไทยเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางการทดสอบและรับรองในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการทดสอบเพื่อความสอดคล้องในกระบวนการผลิต การส่งเสริมตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน (Aftermarket)  พร้อมขยายพันธมิตรทางธุรกิจให้เพิ่มขึ้น


GREEN GROWTH การสร้างความยั่งยืน

2023 – 2030 เตรียมพร้อมห้องปฏิบัติการทดสอบการปล่อยสารมลพิษจากเครื่องยนต์ตามมาตรฐานยูโร 5 และ 6 เพื่อลดปัญหาการปล่อยมลพิษทางอากาศฝุ่น PM ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลกที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ ซึ่งขณะนี้ สยย. ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องมือทดสอบ พร้อมให้บริการเป็นที่เรียบร้อย  รวมถึงการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า โดย สยย. มีศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรที่สุดในอาเซียน ตามมาตรฐาน UN R100 สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและ UN R136  สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงสามารถทดสอบเพื่อการวิจัยและพัฒนาในการปรับปรุงสมรรถนะของแบตเตอรี่ได้อีกด้วย โดยในเดือนนี้ สยย. ได้มีโครงการชื่อ
“แบตฯดี มีคืน” เป็นโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า จะได้รับคืนเงินค่าบริการทดสอบ 10%  เมื่อมาทดสอบกับ สยย. และผ่านมาตรฐาน มอก.3026-2563 หรือ มอก.2952-2536 ภายในเดือน มี.ค. – ธ.ค. นี้

ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ สยย. มีการจัดทำโปรโมชั่นสนับสนุนผู้ประกอบการในเรื่องการทดสอบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ สยย. ยังสนับสนุนนโยบาย ZEV การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ มุ่งเน้นสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน Net Zero รวมถึงการลดหรือกักเก็บปริมาณก๊าซเรือนกระจกไว้ไม่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมมุ่งสู่การทำธุรกิจที่ยั่งยืน และจะเพิ่มเติมการทำกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ การรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัย เป็นต้น


WHITE SPIRIT การสร้างความน่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาล
2023 -2030 การปรับเปลี่ยนวิถีการบริหาร การจัดการควบคุมดูแลกิจกรรมต่าง ๆ ของ สยย. ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และมุ่งเน้นประสิทธิภาพ และผลสัมฤทธิ์ของงาน โดยปรับกระบวนการทำงานมุ่งสู่ความเป็นเลิศในด้านการปฎิบัติการ การบริหารจัดการองค์กรด้วยแนวคิด Smart  Strong และ Slim  

ความท้าทายของการบริหารงาน สยย. ในยุคนี้
คือ การปรับการทำงานของ สยย. ให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สร้างโมเดลของธุรกิจใหม่ๆ ในเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และการพัฒนาทักษะเดิม พร้อมเสริมสร้างทักษะใหม่ให้แก่บุคลากรภายใน สยย. รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร และเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ “การปั้นสถาบันยานยนต์ให้มีความพร้อม เป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ ในการทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์มีความสมบูรณ์ในทุกมิติ เพื่อผลักดันประเทศไทยในก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาคเติบโตและเข้มแข็งอย่างมีศักยภาพรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ด้วยศักยภาพของ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 11 ของโลก และเป็นใหญ่เป็นลำดับที่ 1 ของภาคพื้นอาเซียน และศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถทดสอบได้ตามมาตรฐานครบวงจร” และนี่เรียกได้ว่าเป็นการ “พลิกโฉมสู่ยานยนต์แห่งอนาคต” อีกหนึ่งบทบาทก็ว่าได้

ที่มา: https://www.thaiauto.or.th/2020/th/news/?news_id=5500

About ทีมข่าว FactoryTalkThai

ทีมงานข่าว FactoryTalkThai นำเสนอข่าวสารเทคโนโลยีสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, เทคโนโลยี IT สำหรับโรงงาน และเทรนด์ที่น่าติดตามของภาคอุตสาหกรรม

Check Also

One Energy สถานีไฟฟ้าย่อยทางดิจิทัลเต็มรูปแบบแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว

One Energy Enterprises Inc. ผู้เสนอวิธีบูรณาการพลังงานทางอุตสาหกรรมในแนวดิ่ง ประกาศความสำเร็จในการทดสอบและดำเนินการทางไฟฟ้าของสถานีไฟฟ้าย่อยทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ (fully digital substation) และเป็นสถานีย่อยในระบบส่งแรงดันไฟฟ้าแบบ Plug-and-Play ซึ่งเป็นแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ใน Findlay ของ …

การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าปี 66 สูงแตะ 15 ล้านคัน

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 11 กันยายน 2566 — การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดการจัดส่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั่วโลก (แบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด) ในปี 2566 มีปริมาณเกือบ 15 ล้านคัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 19% …