สรุป 3 อุตสาหกรรมหลัก จากงาน AIS Business Digital Future 2024 พร้อมเปิดประสบการณ์จริงผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระหว่างภาคอุตสาหกรรมแบบ Cross Industry Collaboration

AIS Business ผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชันสำหรับองค์กร ได้จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี “AIS Business Digital Future 2024” ภายใต้แนวคิด “DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION” เพื่ออัปเดตนวัตกรรมพร้อมเปิดประสบการณ์จากการทำงานจริงด้านธุรกิจและเทคโนโลยี โดยผู้บริหารจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำมาแลกเปลี่ยนมุมมองในการผสานความร่วมมือ Cross Industry Collaboration เชื่อมต่อการทำงานแบบข้ามอุตสาหกรรมทั้งจากภาครัฐและเอกชน พร้อมปักหมุดไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ซึ่งเป็น 3 อุตสาหกรรมหลักที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย

ทาง FactoryTalkThai ได้มาสรุปประเด็นสำคัญในช่วงบ่ายของงาน โดยเน้นไปที่ 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการค้า ลงลึกไปที่การแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงมากกว่าด้านเทคนิค จากเหล่าพันธมิตรคู่ค้าธุรกิจที่มาร่วมจัดแสดงบูธโชว์โซลูชัน พร้อมการบรรยายจากหน่วยงานพันธมิตรชั้นนำที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพูดคุยถึงแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมไทยและชี้ให้เห็นถึงการยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้สามารถก้าวข้ามทุกความท้าทายพร้อมสร้างเศรษฐกิจแบบ ECOSYSTEM ECONOMY ร่วมกันอย่างยั่งยืน

วัตถุประสงค์ของแนวคิดงานสัมมนาครั้งนี้ AIS Business ต้องการสื่อสารด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่สำเร็จแล้วจาก Cross Industry Collaboration และ Ecosystem Partners เพื่อก้าวสู่ Business Growth และ Sustainability ผ่านการนำเสนอโซลูชันและเทคโนโลยีด้าน Digital Industry จากพันธมิตรของ AIS Business ที่ร่วมกันพัฒนาโซลูชันสำหรับ 3 อุตสาหกรรมหลัก

คุณ Tanapong Ittisakulchai – Chief Enterprise Business Officer (CEBO) กล่าวต้อนรับเข้าสู่งานสัมมนาในช่วงบ่าย AIS Business Digital Future 2024 พร้อมเผยโฉมอนาคตของ Digital Enterprise และการขับเคลื่อน Digital Vertical Industries “61% ของ Chief Economists Expect คาดว่าในปี 2024 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง ซึ่งมีปัจจัยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งด้าน Digital Disruption, Geopolitics & Trade War, Recession และ Climate Change” นอกจากนี้ AIS Business พบว่า ยังมีความท้าทายทางธุรกิจที่องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญท่ามกลางความไม่แน่นอน เช่น

  • การจัดการประสบการณ์ของลูกค้า
  • ความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นทางธุรกิจ
  • ประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  • Sustainability และ ESG
  • การจัดการบุคลากรและความสามารถพิเศษ
  • การบริหารจัดการทรัพยากรและต้นทุน

“AIS Business มุ่งเน้นที่จะสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจเพื่อให้พันธมิตรได้ “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” ด้วยการขับเคลื่อน Ecosystem Economy ทั้ง 3 ด้าน คือ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอัจฉริยะที่เชื่อถือได้สำหรับภาคธุรกิจ ความยั่งยืน และการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระหว่างภาคอุตสาหกรรมแบบ Cross Industry Collaboration ซึ่งประกอบไปด้วยเทคโนโลยี AIS 5G, AIS Business Network, AIS Cloud X, AIS PARAGON และ CPaaS Platform เพื่อนำไปปรับใช้และช่วยยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 มุ่งเน้นการดำเนินการผ่านการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีที่ทันสมัยจาก AIS Business” คุณ Tanapong Ittisakulchai กล่าว

AIS Business ได้ยกระดับภาคการผลิตในอุตสาหกรรมด้วยการนำ 5G และเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เป็นโซลูชัน Smart Manufacturing ที่พร้อมตอบโจทย์ภาคการผลิตอัจฉริยะได้อย่างสมบูรณ์เพื่อเชื่อมโยงระบบ OT (Operation Technology) เข้ากับแพลตฟอร์ม Digital แบบครบวงจร ด้วยการนำเทคโนโลยี 5G, Cloud และ Digital Services มาผสานเข้ากับเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตอย่าง Robotics และ IoT เพื่อผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมโรงงานและการผลิตอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี AIS 5G

โดยภายในงานได้มีการสาธิตและนำเสนอ Smart Factory โซลูชันที่จะเข้ามาปฏิวัติกระบวนการทางอุตสาหกรรมโดยนำเอาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลต่าง ๆ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI และ IoT เข้ามาบริหารจัดการการดำเนินงานภายในโรงงาน เพิ่มความยืดหยุ่น ความสะดวก มีการทำงานที่เป็นระบบแบบอัตโนมัติ และยกระดับคุณภาพของผลผลิตที่ได้ กระบวนเหล่านี้มุ่งเน้นที่จะใช้กำลังคนให้น้อยลงกว่าระบบเดิม

คุณ Napatsorn Kitaphanich – Director and President บริษัท Somboon Advance Technology จำกัด กล่าวบนเวทีว่า “3 ปรัชญาของ Somboon Advance Technology คือ สมบูรณ์ สมดุล และสำเร็จ พร้อมชู 1st Smart Factory in Asean ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี 5G ของ AIS ด้วยความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ เพื่อทลายกำแพงความท้าทายที่ต้องเผชิญ นั่นก็คือ ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพการผลิต การทำงานแบบ Manual Lifting ที่มีประสิทธิภาพต่ำและส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และอุบัติเหตุการชนกันจากผู้ขับขี่”

AIS Business ร่วมมือกับ Somboon Advance Technology นำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในการยกระดับ Smart Factory Solution เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับโรงงานต้นแบบ Industry 4.0 ด้วยการผสานรวมการทำงานร่วมกับนวัตกรรม 3D Vision Robot ซึ่งประกอบด้วย

  • 3D Vision Camera ทำงานประสานร่วมกับแขนกลหยิบชิ้นงาน เพื่อคัดแยกประเภทชิ้นงานได้แบบอัตโนมัติ
  • Unmanned AGV – รถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้พนักงาน หรือ เจ้าหน้าที่ในการควบคุม
  • AS/RS Smart Warehouse หรือ Automated Storage & Retrieval System 3D Warehousing ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ ที่จะช่วยจัดเก็บ หรือ ค้นหาสินค้าที่ต้องการได้แบบเรียลไทม์

รับชมวิดีโอ AIS 5G Smart Factory Solutions – Somboon Advance Technology

อีกตัวอย่าง Used Case สำหรับ Smart Manufacturing ที่น่าสนใจ จากบริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด โรงงานผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ให้กับโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G และ IoT มาเชื่อมต่อ บันทึก และประมวลผลข้อมูล เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการควบคุมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำ Energy Platform มาใช้ตรวจติดตามเพื่อให้เห็นความผิดปกติและทำการปรับปรุงแก้ไขได้ทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์ระดับโลกของโตโยต้า และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการผลิตรถยนต์ของภูมิภาค

รับชมวิดีโอ สัมภาษณ์คุณ Narongchai Bunditvorapoom – Vice President บริษัท Siam Toyota Manufacturing จำกัด

AIS Business ร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลที่เน้นการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอ AIS 5G Manufacturing Platform โซลูชันแพลตฟอร์มสำหรับภาคการผลิต หรือ ภาคอุตสาหกรรม ที่สามารถเก็บข้อมูล IoT ของอุปกรณ์และเครื่องจักรกลต่าง ๆ ในสายการผลิต นำขึ้นมาบนแพลตฟอร์มด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ และแสดงผลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มยิ่งขึ้น

รับชมวิดีโอ แนะนำ AIS 5G Manufacturing Platform

ทำเรื่องยากให้ง่ายดายขึ้นด้วย AIS PARAGON Platform แพลตฟอร์ม 5G ที่รวมศูนย์การบริหารจัดการ 5G, Edge Computing, Cloud และ Applications มาไว้ที่เดียวแบบ One Stop Service ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เองอย่างสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจและงบประมาณในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงพลังแห่งการเชื่อมต่อของเทคโนโลยี 5G รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น ช่วยตอบโจทย์การทำงาน และสามารถแก้ปัญหาในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมได้แบบ Real-Time นอกจากนี้ AIS PARAGON Platform ยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้อีกด้วย

นอกเหนือจากเทคโนโลยี AIS 5G ในโซน Smart Manufacturing ยังมีการจัดแสดงในส่วนของ Energy & Carbon Credit Management Platform สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการคำนวณและบริหารจัดการ “คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit)” ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญหนึ่งที่สามารถจะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจการผลิต และอีกเทคโนโลยีที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุด คือ ปัญญาประดิษฐ์ด้าน Smart AI Camera สำหรับ Manufacturing ซึ่งถูกนำมาปรับใช้ในด้านมาตรฐานความปลอดภัยภายในพื้นที่โรงงานให้มีความแม่นยำด้านการตรวจจับที่แม่นยำสูงสุด

สำหรับโรงงานหรืออุตสาหกรรมที่สนใจประยุกต์ใช้ 5G ภายในโรงงาน สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://business.ais.co.th/5g/SmartMa… หรือติดต่อทีมงาน AIS Business ทางอีเมล [email protected]

เทคโนโลยี 5G และ IoT คือตัวเปลี่ยนเกมพลิกโฉมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สู่ Smart Transportation และ Smart Logistics เพื่อยกระดับการเชื่อมต่อข้อมูล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดตาม การตรวจสอบ และการวิเคราะห์ข้อมูลให้กับระบบนิเวศห่วงโซ่อุปทาน เทคโนโลยี 5G และ IoT สามารถช่วยให้อุตสาหกรรมภาคโลจิสติกส์ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริการลูกค้า และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ไฮไลน์ของงานในโซนทาง AIS Business ได้นำเสนอโซลูชัน 5G AI Logistics และ Surveillance Drone โดยความร่วมมือระหว่าง AIS 5G และ ARV เพื่อร่วมผลักดันการพัฒนานวัตกรรมให้กับองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม สำหรับก้าวสู่ธุรกิจขนส่งแห่งอนาคต ด้วยเทคโนโลยี 5G, AI และ IoT ที่เข้ามาผสานการทำงานร่วมกันสอดรับยุค Digital Transformation ที่มุ้งเน้นความยืดหยุ่น คล่องตัวและคุ้มค่า การเชื่อมต่อข้อมูลบนเทคโนโลยีโครงข่าย 5G ที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แข็งแกร่งของ AIS Smart Transportation และ Smart Logistics ทำให้สามารถปลดล็อกความท้าทายด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ธุรกิจภาคขนส่งกำลังเผชิญอยู่ให้มีการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ IoT และ Cloud ที่ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เพราะยานพาหนะต้องเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา รวมถึงเกิดการประมวลผลอย่าง Real-Time เช่นตัวอย่างความสำเร็จในโครงการวังจันทร์วัลเลย์

AIS 5G – ARV ร่วมส่งนวัตกรรมใหม่ AI Autonomous Drone System บนโครงข่าย AIS 5G ครั้งแรกในไทย!

สำหรับโซลูชันอื่น ๆ ที่เข้ามาร่วมจัดแสดงในโซน Smart Transportation และ Smart Logistics คือ People Transport Solution โดย SWAT Mobility นำเสนอโซลูชันด้านการคมนาคมที่ให้บริการเทคโนโลยี Demand-Responsive และ Ride-Sharing สำหรับยานพาหนะที่มีความจุสูง และโซลูชันสุดท้าย คือ The NEXTMove of Sustainable Transportation นำเสนอโซลูชันด้านการเดินทางด้วยพลังงานสะอาด แบบครบวงจร ทั้งแพลตฟอร์มการบริหารจัดการ ด้านการขนส่งสาธารณะจาก Muvmi และระบบ Solar Charging จาก PlanetEV โดยทั้งคู่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี 5G เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความเสถียรภาพที่สุด

โซลูชันคลังสินค้าอัตโนมัติ หรือ Smart Warehouse Management จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็น การรับเข้า จัดเก็บ เคลื่อนย้ายสินค้าแบบอัตโนมัติ ไร้รอยต่อ รวดเร็ว และแม่นยำ ลดโอกาสในการเกิดปัญหาต่าง ๆ โดยภายในงาน AIS Business ได้นำเสนอโซลูชัน Automated Picking and Handing System และ Automated Sorting System ที่ถูกควบคุมการทำงานจากส่วนกลางผ่านการเชื่อมต่อข้อมูลบนเทคโนโลยี 5G เพื่อให้ระบบคัดแยก (Sorting) และระบบหยิบสินค้า (Picking) ทำงานแบบอัตโนมัติ สอดรับการทรานส์ฟอร์มไปสู่ยุค 4.0 อย่างแท้จริง

AIS Business ได้พัฒนาโซลูชัน Smart Warehouse Management ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าเพื่อให้ได้บริการคลังสินค้าอัจฉริยะแบบ end-to-end เพื่อความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน เพิ่มความสะดวกและง่ายดายในการบริหารจัดการสินค้าเข้าและออกด้วย Automatic Picking and Handling System ที่สามารถจัดเก็บสินค้าได้จำนวนมากที่ระยะความสูงสุดถึง 10 เมตร โดยสามารถรองรับกล่องบรรจุสินค้าได้สูงสุดที่ 30 กิโลกรัม ซึ่งกิจกรรมภายในคลังสินค้าจะทำงานผ่านหุ่นยนต์อัจฉริยะ Robot ตั้งแต่การหยิบสินค้า ขนส่งสินค้าภายในคลังได้อย่างแม่นยำ โดยทั้งระบบจะทำงานเชื่อมต่อข้อมูลอยู่บนโครงข่าย 5G ที่ถูกป้อนคำสั่งมาจากระบบ WMS on Cloud ทำให้ Smart Warehouse Management สามารถทำงานร่วมกับ Robot ได้แบบ Real-Time ตลอดทั้ง 24 ชม. ในทุกสภาพแวดล้อมแม้พื้นที่ที่มีอุณหภูมิติดลบระดับแช่แข็ง AIS Business ระบุว่า โรงงานที่นำโซลูชันบริหารจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะไปปรับใชั สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและจัดการคลังสินค้าได้มากกว่าระบบเดิม 4 – 5 เท่า และยังสามารถยกระดับการแข่งขันให้ก้าวสู่ยุค 4.0 ได้อย่างยั่งยืน

เพื่อยกระดับความเหนือชั้นให้กับธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก AIS Business ยินดีนำเสนอโซลูชัน Renovation Workplace เพื่อปรับปรุงออฟฟิศสู่ดิจิทัลสำหรับองค์กรที่มีแนวคิดสมัยใหม่ เช่น การจองตารางใช้งานห้องประชุม การบันทึกข้อมูล Visitor จองโต๊ะทำงานส่วนกลางสอดรับ Hybrid Workplace นี่คือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ออฟฟิศยุคใหม่น่าอยู่มากขึ้น

ไฮไลน์ของโซน Smart Property & Retail:

IOC – IoT Operation Center คือโซลูชันสำหรับอาคารศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ หรือเรียกว่า วอร์รูม ซึ่งมีอุปกรณ์ IoT ทั้งภายในและที่ติดตั้งอยู่ภายนอกตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนมากทำงานร่วมกันแบบรวมศูนย์ เพื่อการบริหารเชิงวิเคราะห์ข้อมูลอย่างแม่นยำ เพื่อเป็นหัวใจสำคัญของการเชื่อมโยงทุกระบบเข้ามาทำงานร่วมกันสู่ภาพเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City โดยการขับเคลื่อนผ่านเทคโนโลยี AIS 5G ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย

IOB – Internet of Behavior for Retails คือโซลูชันการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเชิงพฤติกรรม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค (Behavioral Data) จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกโดย IoT ที่เชื่อมต่อข้อมูลผ่านเทคโนโลยี 5G สำหรับการประมวลผลเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลา การเดินทาง การหยุดนิ่งให้ความสนใจสินค้าต่าง ๆ โดยข้อมูลเหล่านี้ จะถูกนำไปประมวลผลออกมาในรูปแบบแผนการเสนอขายสินค้าและบริการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและความต้องการที่แท้จริง

AIS Robot Platform โซลูชันนำเสนอโดยทีม AIS Robotic Lab สำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์ 5G เพื่อตอบสนองความต้องการในการดูแลลูกค้าขององค์กรต่างๆ ได้อย่างทันสมัย โดย AIS Robot Platform สามารถรองรับการสร้าง Journey ในรูปแบบต่างๆ ตามต้องการได้ เช่นการต้อนรับลูกค้าหน้าร้าน การให้ Information ต่างๆ ของร้าน หรือการนำทางภายในร้านหรือห้างสรรพสินค้า โดยสามารถสร้างรูปแบบการทำงาน และกำหนดเส้นทางเดินของหุ่นยนต์ได้บนแพลตฟอร์มเลย พร้อมยังสามารถใช้แพลตฟอร์มเดียวนี้ ในการกำหนดและสร้างรูปแบบการทำงานให้กับหุ่นยนต์หลากหลายประเภท และรุ่นอีกด้วย โดยทั้งตัวหุ่นและแพลตฟอร์มยังมีความสามารถหลากหลาย ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน Use Case ต่างๆ สำหรับการดูแลลูกค้า หรือพื้นที่ อาทิ

  • เทคโนโลยีอินฟราเรด ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายได้อย่างแม่นยำ เพื่อใช้ในการคัดกรอง และตรวจวัดเบื้องต้นสำหรับผู้มาใช้บริการในพื้นที่ต่างๆ
  • เทคโนโลยี 3D Mapping กำหนดแผนที่เส้นทางเดินของหุ่นยนต์ ให้เคลื่อนที่เข้าหาผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็วและแม่นยำ และยังสามารถบังคับหุ่นยนต์เคลื่อนที่ได้ตามต้องการผ่านเครือข่าย 5G
  • เทคโนโลยี Cloud Computing ช่วยในการประมวลผล เชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง Robot และ Robot Platform ให้สามารถทำงานได้ตามรูปแบบ หรือเส้นทางที่กำหนดได้แบบ Real Time

รับชมตัวอย่างวิดีโอ AIS 5G Use Case สำหรับ Smart Retail

ช่วงท้ายการบรรยายบนเวทีได้รับเกียรติจาก 2 ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการค้าปลีก นั่นก็คือ เซ็นทรัลพัฒนา และ เดอะมอลล์กรุ๊ป ทั้งคู่เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเพื่อผลักดันธุรกิจของตนสู่การเป็น Smart Retail ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับขุมพลังของดิจิทัลเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเสริมขีดความสามารถการทำงานในแต่ละมิติสำหรับส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือกับ AIS 5G เพื่อต่อยอดศูนย์การค้าในเครือธุรกิจ ให้เป็นศูนย์กลางการค้าที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งกับลูกค้าและพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจร่วมกัน พร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาและให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พร้อมแผนรองรับต่อการเปลี่ยนแปลง มุ่งสู่การเป็น Future of Retail ที่สมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง

รับชมวิดีโอบทสัมภาษณ์ คุณ Wallaya Chirathivat – President and CEO แห่ง Central Pattana

อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในธุรกิจค้าปลีกย่อมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดความน่าสนใจจากผู้บริโภค แต่การรักษาลูกค้าให้อยู่กับธุรกิจได้นานที่สุด คือตัวแปรที่นำไปสู่ความยั่งยืนให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้ CRM Loyalty Platform & Retail คือโซลูชันที่มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์เชิงวิเคราะห์ในบริบทการสื่อสารและข้อมูลของลูกค้ารวมไปถึงความต้องการเลือกซื้อ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในการปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้าเพื่อเพิ่มระดับความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น สู่การปรับแผนกระตุ้นยอดขายในธุรกิจค้าปลีก (Retail) การยกระบบ CRM ให้ทำงานอยู่บนระบบ Cloud ของ AIS จะช่วยทำให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถทรานส์ฟอร์มสู่ Digital Transformation ได้อย่างไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านเครือข่าย AIS 5G ที่เสถียรและทรงพลังที่สุดในประเทศไทย

บทสรุป

เหตุผลที่โซลูชันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก จาก AIS Business ได้การยอมรับจากเหล่าพันธมิตรคู่ค้าต่าง ๆ คือ สามารถตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ให้พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่มาพร้อมกับความคาดหวังใหม่ ๆ จากผู้บริโภค ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ครอบคลุม ทั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ และ เครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึง Enterprise Platform ที่มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีช่วยต่อยอดการออกแบบโซลูชันให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจพร้อมการให้บริการอย่างครบวงจรแบบ One-Stop ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางระบบ ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย

หากผู้ประกอบการธุรกิจ กำลังมองหาโซลูชันแห่งอนาคต Smart Manufacturing | Smart Transportation & Smart Logistics | Smart Warehouse Management และ Smart Property & Retail สามารถรับคำปรึกษาจากทีมงาน AIS Business ได้ทันที หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ https://www.ais.th/business/enterprise

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย

เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่

Email: [email protected]

About pawarit

Check Also

NXP ซื้อ TTTech Auto ในราคา 625 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เสริมแกร่งด้านยานยนต์

NXP เป็นผู้ผลิตชิปสำหรับรถยนต์รายใหญ่ที่สุด ในขณะที่ TTTech Auto เป็นผู้ผลิต “middleware” ที่เน้นด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ระบบปฏิบัติการของรถยนต์ผสานเข้ากับแอปพลิเคชัน และเปิดตัวการอัปเดต โดยยังคงรับประกันว่าฟังก์ชันที่สำคัญจะไม่ได้รับผลกระทบ

P&R Measurement สร้างนิยามใหม่ของการใช้งานทางอุตสาหกรรมและการผลิตแบบยืดหยุ่น

P&R Measurement ผู้มีบาทบาทสำคัญด้านอุตสาหกรรมการวัดและควบคุม เปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในงาน CES 2025 สหรัฐอเมริกา โดยนำเสนอวิธีการที่ล้ำสมัยสำหรับการใช้งานทางอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการผลิตแบบยืดหยุ่น พร้อมมุ่งสู่วิสัยทัศน์ใหม่ที่ว่า “ส่งเสริมให้ทุกคนเป็นผู้สร้างนวัตกรรม” โดยเน้น “การใช้งานในทางอุตสาหกรรมด้วย AI …