เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใหญ่อันดับสองของโลก ปัจจุบันมีปั้มน้ำมันมากกว่า 46,000 แห่งทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นปั๊มน้ำมัน ภายในสิ้นปี 2025 บริษัทมีแผนจะปิดปั้มน้ำมันจำนวน 1,000 แห่ง ซึ่งคิดเป็นไม่ถึง 3% ของทั้งหมด แม้ว่าจะมีจำนวนค่อนข้างน้อย แต่เชลล์ กล่าวว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยตอบสนองความต้องการสถานีชาร์จ EV สาธารณะสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
เชลล์ ไม่ได้ระบุว่าร้านค้าปลีกที่ปิดตัวลงนั้นตั้งอยู่ที่ใด อย่างไรก็ตาม ได้ให้รายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเป้าหมายสถานีชาร์จ EV ในปี 2023 บริษัทมีสถานีชาร์จ EV จำนวน 54,000 แห่งทั่วโลก โดยหวังว่าจะเติบโตเป็น 70,000 แห่งในปี 2025 และเพิ่มเป็น 200,000 แห่งภายในปี 2030
“เรากำลังมุ่งเน้นไปที่การชาร์จสาธารณะมากกว่าการชาร์จที่บ้าน เพราะเราเชื่อว่าลูกค้าของเราต้องการมากที่สุด” เชลล์กล่าวว่า “เรามีข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญในแง่ของสถานที่ตั้ง เนื่องจากเครือข่ายสถานีบริการทั่วโลกของเราเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ เรายังมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันอื่น ๆ เช่น ข้อเสนอการขายปลีกที่สะดวกสบายซึ่งช่วยให้เราสามารถนำเสนอกาแฟ อาหาร และสินค้าอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ให้กับลูกค้าในขณะที่พวกเขาชาร์จรถยนต์ของพวกเขา”
สัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าในการขายรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 3% ในปี 2018 เป็น 18% ในปี 2023 การเติบโตที่รวดเร็วที่สุดคือในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคือยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ในประเทศจีน มีรถยนต์หลายประเภทจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ในตลาดอื่น ๆ โดยทั่วไปรถยนต์ไฟฟ้าจะขายในราคาที่สูงกว่านี้ก่อนที่จะใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
เชลล์เข้าซื้อกิจการ Volta Charge เครือข่ายการชาร์จ EV ของสหรัฐอเมริกาในปีที่แล้ว พร้อมทั้งลงนามความร่วมมืออื่นๆ หลายสิบรายเพื่อสนับสนุนการติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครือข่ายการชาร์จของบริษัท Shell Recharge คิดเป็นประมาณ 1.7% ของเครือข่ายการชาร์จเร็ว DC สาธารณะในสหรัฐอเมริกา ณ ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ตามรายงานล่าสุดจากห้องปฏิบัติการพลังงานทดแทนแห่งชาติ (NREL)
ที่มา : https://www.teslarati.com/shell-close-gas-stations-ev-charging/