NGK Insulators ผู้ผลิตสินค้าเซรามิกสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์ ได้ออกมาเผยถึงเป้าหมายในการใช้ AI เพื่อช่วยให้การคิดค้นวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ สามารถใช้เวลาลดเหลือเพียง 1 ใน 10 เมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิม โดยปัจจุบันสามารถลดเวลาในการวิจัยเหลือเพียง 1 ใน 3 ได้แล้ว

ฝ่ายวิจัยของบริษัทนั้นได้มีการใช้งาน AI เพื่อให้การ R&D ผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ โดยสิ่งที่นักวิจัยต้องทำนั้นมีเพียงแค่การป้อนข้อมูลคุณสมบัติของวัสดุที่ต้องการ เช่น คุณสมบัติในการนำความร้อน, การต้านทานการกัดกร่อน หรือคุณสมบัติอื่นๆ จากนั้น AI ก็จะทำการวิเคราะห์และนำเสนอสัดส่วนของวัตถุดิบเซรามิกที่ต้องใช้, เงื่อนไขในการผลิต และปัจจัยอื่นๆ ในการสร้างเซรามิกที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ
จากนั้นทีมนักวิจัยก็จะทำการพัฒนา Prototype ขึ้นมาตามคำแนะนำของ AI และทดสอบคุณสมบัติต่างๆ ก่อนจะทำการป้อนข้อมูลกลับเข้าไปยังฐานข้อมูลหรือ Database สำหรับ AI อีกครั้ง เพื่อให้ AI มีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับทำการเรียนรู้ และสามารถนำเสนอแนวทางใหม่ๆ ในการผลิตได้หากคุณสมบัติของ Prototype นั้นยังไม่ตรงกับเป้าหมายที่ต้องการ
การใช้ AI นี้สามารถสร้างผลลัพธ์ให้กับฝ่ายวิจัยคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าวิธีการแบบดั้งเดิม ที่นักวิจัยจะต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเองซ้ำๆ หลายครั้งกว่าจะได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย ซึ่งเดิมทีนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียว
สำหรับข้อมูลที่บริษัทนำมาใช้เพื่อสร้าง AI และ Machine Learning (ML) Model นั้นก็คือข้อมูลการทดลองของบริษัทที่มีมาตั้งแต่ช่วงที่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 1919 โดยมีรายงานการทดลองมากกว่า 10,000 รายการในช่วงเวลา 100 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่นั้นเป็นข้อมูลเชิงตัวเลข แต่ในอนาคต ทางบริษัทก็จะเริ่มนำข้อมูลอื่นๆ เช่น ข้อมูลที่นักวิจัยสังเกตและตอบสนองต่องานวิจัยแต่ละชิ้น เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ร่วมด้วย
NGK Insulators ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องลดเวลาที่ใช้ในการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เหลือเพียง 1 ใน 10 ให้ได้ภายในปี 2030
สาเหตุที่ NGK Insulators ต้องตั้งเป้าหมายในการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นนี้ ก็เนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นจากการมาของยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่เดิมทีตลาดใหญ่ของ NGK Insulators นั้นคือการผลิตเซรามิกเพื่อใช้ในการกรองควันที่เกิดจากท่อไอเสียให้อากาศสะอาดขึ้น และการผลิตเซ็นเซอร์สำหรับ Nitrogen Oxide Concentration แต่เมื่อตลาดของยานยนต์ไฟฟ้าเติบโต และยานยนต์ไฟฟ้านี้ก็ไม่ต้องมีการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เลย ทำให้ NGK Insulators ต้องเร่งปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้สามารถก้าวสู่ตลาดใหม่ได้
ในอนาคต บริษัทต้องการที่จะผลิตสินค้าที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างเช่น แบตเตอรี่บรรจุไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ด้าน Digital อย่างเช่น Semiconductor ซึ่งตั้งเป้าจะขยายตลาดในกลุ่มนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่องหลังจากนี้
ที่มา: https://asia.nikkei.com/Business/Materials/Japanese-materials-maker-sees-AI-cutting-R-D-time-by-90