แม้ว่าธุรกิจด้านอาหารจะเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่มีความต้องการอยู่ตลอดในฐานะหนึ่งในปัจจัยสี่ แต่การจะทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืนมั่นคงได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการบริหารจัดการธุรกิจที่ดี
โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย หรือ Lenôtre Culinary Arts School Thailand ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในธุรกิจด้านอาหารที่มีการปรับตัวเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งและทันสมัย ด้วยการนำเทคโนโลยี ERP ระบบ SAP Business One มาใช้ เพื่อให้การบริหารจัดการธุรกิจเป็นระบบที่ได้มาตรฐานอย่างครบวงจร
ซึ่งในครั้งนี้คุณนัตตรา ทองสุข ผู้จัดการแผนกบัญชีและการเงินโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ได้มาแบ่งปันแง่มุมความท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญในการบริหารจัดการ และประสบการณ์จริงในการใช้งาน SAP Business One
โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย โรงเรียนสอนทำอาหารฝรั่งเศสมาตรฐานสากลสาขาที่ 2 ของโลก และสาขาแห่งเดียวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างเชฟมืออาชีพสู่ครัวชั้นนำ
ประวัติความเป็นมาของ Lenôtre ในปี 1957 คุณ Gaston Lenôtre และ คุณ Colette Lenôtre ผู้เป็นภรรยา ได้ลงทุนซื้ออาคารในปารีส และทำการเปิดร้าน Maison Lenôtre จนประสบความสำเร็จโด่งดังในเวลาอันสั้นในฐานะของร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง และได้ต่อยอดในปี 1964 ด้วยการเพิ่มธุรกิจในส่วน Catering และ Reception เพิ่มเติมเข้ามา ทำให้ร้าน Maison Lenôtre มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น
จากนั้นในปี 1968 ทางร้านได้ทำการเปิด Production Laboratory ที่ Plaisir เพิ่ม เพื่อใช้คิดผลิตสูตรอาหารใหม่ๆ สำหรับให้บริการในร้าน และยังคงใช้ต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้ในฐานะของศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมทางด้านอาหารของ Maison Lenôtre
ธุรกิจโรงเรียนของ Maison Lenôtre ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1971 ที่ Plaisir สถานที่เดียวกับ Lab ของร้าน และเปิดให้เชฟมืออาชีพทั่วโลกได้มาเรียนเคล็ดลับในการทำอาหารฝรั่งเศสและขนมปังจากเชฟของ Maison Lenôtre โดยตรง
การเติบโตยังคงเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งด้วยการขยายสาขาสู่ต่างประเทศ การมีเชฟชั้นนำมาร่วมงาน การได้รับ Michelin 2 ดาวและขึ้นมาจนถึง 3 ดาว ไปจนถึงการได้รับรางวัล Meilleur Ouvrier de France (MOF) ต่างก็ล้วนเป็นที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของ Maison Lenôtre ได้เป็นอย่างดี
การก่อตั้ง โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร Bangkok Land Public Co., Ltd. ทำให้เกิดเป็นโรงเรียน และเป็นสาขาที่สองของโลกต่อจากสาขาแรกที่ฝรั่งเศส และยังนับเป็นสาขาแรกในภูมิภาคเอเชีย ด้วยเป้าหมายในการเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมการทำอาหารฝรั่งเศสให้แก่เชฟและบุคคลทั่วไปในภูมิภาคเอเชียได้มาเรียนรู้กันอย่างมีมาตรฐาน โดยเชฟที่สอนนั้นก็เป็นเชฟมืออาชีพจากฝรั่งเศส และวัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมสำหรับร้านอาหารระดับ Michelin
สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนของ Lenôtre Culinary Arts School Thailand ในประเทศไทย เป็นหลักสูตรเดียวกันกับที่สอนที่ฝรั่งเศส ประกอบไปด้วย หลักสูตรระยะยาว หรือหลักสูตรประกาศนียบัตร มีให้เลือกเรียน ได้แก่ การประกอบอาหารคาว การประกอบขนมอบ และการทำขนมปัง และหลักสูตรระยะสั้น มีให้เลือกเรียน เช่นเดียวกัน กับหลักสูตรระยะยาว นักเรียน สามารถเลือกเรียนตามความชอบได้ ทั้ง 2 หลักสูตร เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานในด้านการประกอบอาหารหรือขนมมาก่อน ไปจนถึงผู้เรียนระดับมืออาชีพที่ต้องการเสริมทักษะเพื่อไปต่อยอดทางธุกิจ หรือโอกาสด้านวิชาชีพอาหาร ทางโรงเรียนจะสอน อาหารฝรั่งเศส ทั้งภาคทฤษฏี และปฏิบัติ อย่างเข้มข้น ตั้งแต่เริ่มต้น ตลอดจนเทคนิค สำหรับวัตถุดิบ, สูตรอาหาร หรือสูตรขนมฝรั่งเศสแต่ละชนิด โดยนอกเหนือจากหลักสูตร ดังกล่าว สำหรับเชฟมืออาชีพทั่วภูมิภาคเอเชียแล้ว ที่นี่ยังมีหลักสูตรสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นสู่การเป็นเชฟมืออาชีพ และสำหรับเด็ก เลือกได้ตามความชอบของนักเรียน
“การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ” คุณนัตตราเล่าถึงสิ่งที่ Lenôtre Culinary Arts School Thailand ต้องการสร้างเชฟอาหารฝรั่งเศสสู่ครัวไทยและครัวโลก
ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lenôtre Culinary Arts School Thailand สามารถศึกษาข้อมูลและตรวจสอบรายละเอียดคอร์สต่างๆ รวมถึงจองตารางเรียนได้ที่ https://lenotre.co.th/
กลยุทธ์บริหารโรงเรียนสร้างเชฟมืออาชีพให้เติบโต การบริการเป็นหัวใจสำคัญ
คุณนัตตราได้เผยถึงเคล็ดลับสำคัญในการบริหารโรงเรียนสอนทำอาหารระดับนานาชาติซึ่งเป็นธุรกิจที่ขาย Know How เป็นหลัก จึงต้องมีการมุ่งเน้นพัฒนาทักษะของบุคลากรทั้งภายในและผู้มาเรียนให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้นการออกแบบคอร์สเรียนและการให้บริการเพื่อสร้างเสริมความรู้ทักษะและประสบการณ์ให้กับผู้มาเรียนจึงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ
ในแง่มุมของผู้มาเรียนนั้น ก็มีผู้มาเรียนที่หลากหลาย มีทักษะประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป และมีเป้าหมายในการมาเรียนที่มีความเฉพาะตัวสูง ทางโรงเรียนจึงต้องออกแบบคอร์สให้ตอบโจทย์กับผู้เรียนได้อย่างครบถ้วน ด้วยหลักสูตรที่ดี ผู้สอนที่เป็นมืออาชีพ การสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีอุปกรณ์ครัวทันสมัย เทคโนโลยีใหม่จากยุโรป ล่ามในภาษาต่างๆ ที่จะช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้เรียนและผู้สอนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้อาคารของโรงเรียน ที่ออกแบบตามมาตรฐานยุโรป รวมถึงด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย และสะดวก
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นโรงเรียนที่สอนทักษะอาชีพ ดังนั้นผู้มาเรียนจึงมีทั้งเชฟมืออาชีพจากโรงแรมและร้านต่างๆ ที่ส่งมาเสริมสร้างทักษะใหม่ๆ ไปจนถึงเชฟบุคคลทั่วไปที่มาเรียนด้วยตนเอง ดังนั้นโรงเรียนจึงต้องมีแนวทางรับมือกับผู้มาเรียนทั้งสองกลุ่ม และมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม
จะเห็นได้ว่าการบริหารธุรกิจโรงเรียนที่สอนทักษะอาชีพเฉพาะทางนั้น มีโจทย์ที่ไม่เหมือนใครในหลายแง่มุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอนทำอาหาร ที่ต้องมีการบริหารจัดการหลายส่วนร่วมกัน และในแต่ละคอร์สที่สอนก็มีต้นทุนและกระบวนการที่ต้องออกแบบให้ตอบโจทย์แตกต่างกันออกไป
ใช้ ERP ปรับธุรกิจให้ทันสมัย ตอบโจทย์ฝ่ายบริหาร
คุณนัตตราเล่าถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร Lenôtre Culinary Arts School Thailand ที่มีความเชื่อมั่นว่าถ้าธุรกิจต้องการที่จะปรับตัวให้ทันสมัย ERP นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ เพราะ ERP จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับฝ่ายบริหารในการเข้าถึงข้อมูลธุรกิจเพื่อทำการวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ
สำหรับ Lenôtre Culinary Arts School Thailand นั้น ต้องการระบบ ERP ที่สามารถบริหารธุรกิจได้ทั้งในแง่มุมของโรงเรียนและภัตตาคารควบคู่กันได้ เพราะนอกเหนือจากการบริหารจัดการด้านการขายคอร์สแล้ว อีกปัจจัยสำคัญก็คือการบริหารจัดการคลังสินค้าวัตถุดิบสำหรับการทำอาหาร ซึ่งเป็นอีกต้นทุนสำคัญของธุรกิจนอกเหนือจากค่าจ้างเชฟมืออาชีพมาเป็นผู้สอน
ในแง่การขาย ระบบ ERP จะต้องบริหารจัดการการขายและการจัดการภาษีสำหรับผู้มาเรียนที่มาจากโรงแรมหรือภัตตาคารต่างๆ และผู้มาเรียนรายบุคคลที่มีรูปแบบการจัดการภาษีที่แตกต่างกันได้ ในขณะที่ต้องรองรับผู้มาเรียนจากนานาชาติได้ด้วยในเวลาเดียวกัน
ส่วนในแง่ของการบริหารจัดการคลังสินค้า โรงเรียนจะต้องมีการตรวจสอบและบริหารจัดการการสั่งซื้อและการเลือกใช้งานวัตถุดิบที่แม่นยำ เพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการสอนแต่ละคอร์สเป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งปกติการสั่งวัตถุดิบนั้นจะต้องมีการคิดเผื่อทั้งในกรณีที่ผู้เรียนทำวัตถุดิบเสียและต้องทำใหม่, การคำนึงถึงวันหมดอายุ และอื่นๆ อีกหลายปัจจัย
อีกมุมหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจที่จะต้องทำได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งทางโรงเรียนก็ให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลออกมาจากระบบ ERP เพื่อวิเคราะห์บนเครื่องมือภายนอกด้วยเช่นกัน
เลือกใช้ SAP Business One on HANA หวังนำข้อมูลธุรกิจออกมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อโจทย์ของระบบ ERP มีความชัดเจน ผู้บริหารของ Lenôtre Culinary Arts School Thailand ก็ได้ตัดสินใจเลือกใช้ SAP Business One on HANA เป็นระบบ ERP หลักในการบริหารธุรกิจ ด้วยความสามารถของระบบที่มีครอบคลุมหลากหลาย และราคาที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดย่อมที่ต้องการเติบโตในอนาคต
SAP Business One สามารถตอบโจทย์ให้กับ Lenôtre Culinary Arts School Thailand ได้เป็นอย่างดี ทั้งการบริหารจัดการด้านการขายที่ต้องมีการทำเอกสารหลายรูปแบบ, การจัดการระบบคลังสินค้าวัตถุดิบสำหรับใช้ในการสอน, การจัดการบัญชีที่มีการบันทึกข้อมูลอย่างครบถ้วนครอบคลุม ไปจนถึงการดูแลด้านการเงินภาพรวม
อีกส่วนหนึ่งที่คุณนัตตรามองว่าสำคัญนั้นก็คือความสามารถในการ Export ข้อมูลจากระบบของ SAP Business One เพื่อนำมาใช้ใน Microsoft Excel ซึ่งสามารถทำได้สะดวกและง่ายดาย สามารถเลือกกลุ่มมของข้อมูลที่ต้องการได้ทันที ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาจัด Format ของข้อมูลมากนัก ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบใหม่ๆ ที่ต้องการเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ทาง Lenôtre Culinary Arts School Thailand ยังได้เลือกใช้ SAP Business One ในรูปแบบ Cloud ซึ่งทำให้ง่ายต่อการทำงาน สามารถทำงานได้จากทุกทึ่ทุกเวลา รวมถึงยังมีความสามารถด้านการขายที่ครบถ้วน ทำให้ภาพรวมการทำงานของโรงเรียนเป็นไปได้อย่างราบรื่น
ไว้วางใจ NDBS เป็น SAP Implementer ช่วยเหลือดูแลทีมงานให้ใช้งานเทคโนโลยีได้เต็มประสิทธิภาพ
ในโครงการนี้ ทางผู้บริหารของ Lenôtre Culinary Arts School Thailand ได้กำหนดเกณฑ์การเลือก SAP Implementer โดยให้ความสำคัญต่อความเป็นมืออาชีพ, บริการหลังการขาย ซึ่ง NTT Data Business Solutions (Thailand) Ltd. หรือ NDBS ก็ได้ถูกเลือกให้รับบทบาท Implementer ด้วยความที่มีคุณสมบัติอย่างครบถ้วน
คุณนัตตราระบุว่าในการดำเนินโครงการร่วมกับ NDBS นี้ถือว่าราบรื่นดี เพราะทีมงานน่ารัก ตอบสนองทันท่วงที แม้จะเป็นนอกเวลางานก็ยังมาช่วยตอบคำถามต่างๆ ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนในแง่ของการปรับแต่งระบบนั้น ก็ยังมีการดำเนินการอยู่เรื่อยๆ ในระหว่างเรียนรู้การใช้งาน เพราะในธุรกิจของ Lenôtre Culinary Arts School Thailand เองก็มีความซับซ้อนไม่น้อยทั้งในแง่ของการจัดรูปแบบการออกเอกสารที่ต้องการ และการบริหารจัดการคลังสินค้าวัตถุดิบ ซึ่งก็ยังมีการปรับแต่งแก้ไขกันเพิ่มเติมในระหว่างใช้งาน โดยในขณะนี้ได้มีการ Interface กับระบบ Bank และ POS เชื่อมกับ SAP Business One ช่วยให้รับรู้ข้อมูลได้จากระบบเดียวแบบ Real Time และสามารถลดขั้นตอนการทำงานได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี การวางระบบให้เป็นมาตรฐานนี้สามารถช่วยให้การทำงานภายในองค์กรของ Lenôtre Culinary Arts School Thailand มีระเบียบมากขึ้น ถึงแม้ผู้ใช้งาน SAP Business One จะมีแนวทางในการเรียนรู้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน แต่ด้วยระบบที่ถูกออกแบบและพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ก็ช่วยให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหน้างานลงได้มาก โดยเฉพาะการที่ระบบไม่สามารถทำการแก้ไขเอกสารได้ แต่ต้องทำการยกเลิกแล้วสร้างใหม่แทน ก็ช่วยลดความสับสนในการสื่อสารประสานงานผ่านเอกสารลงได้และช่วยให้ทีมงานมีความระมัดระวังละเอียดรอบคอบในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย
คุณนัตตราเผยว่าในอนาคตหลังจากนี้ มีแผนมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการสร้าง Use Case เพื่อใช้งานบน SAP Business One ให้มากขึ้น เพราะแง่มุมในการบริหารธุรกิจนั้นมีหลากหลาย ดังนั้นการประยุกต์ใช้งานระบบให้คุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพสูงสุดจึงเป็นสิ่งที่แต่ละธุรกิจจะต้องค่อยๆ ต่อยอดเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
“ไม่มีโปรแกรมไหนที่บริหารธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์ อยู่ที่เรามองว่าจะนำข้อมูลธุรกิจมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า” คุณนัตตรากล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd.
บริษัท NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษาและบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น NTT DATA Business Solutions Thailand พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 และ Email: [email protected] หรือติดตามได้ที่ www.nttdata-solutions.com