Movement GPT ผู้ช่วยในแบบ generative AI รายแรกสำหรับห่วงโซ่อุปทาน โดย project44

project44 ผู้สร้างแพลตฟอร์มชั้นนำด้านทัศนสามารถในห่วงโซ่อุปทาน (supply chain visibility) ประกาศเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ใหม่ภายในแพลตฟอร์มของ project44 ที่ชื่อว่า Movement โดยใช้ความสามารถของโมเดล generative AI ทำให้เป็น Movement GPT ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความก้าวล้ำ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เป็นการส่งมอบตามคำมั่นสัญญาที่มีมานานหลายทศวรรษสำหรับห่วงโซ่อุปทานแบบอัตโนมัติ

Example conversational interaction in Movement GPT by project44

จากการเปิดตัวแชตบอตอย่าง ChatGPT ได้แสดงให้เห็นว่า generative AI นั้นมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตลอดทั้งอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม generative AI จะทำงานได้ดีเพียงใด ก็ทำได้แค่เสมอกับข้อมูลที่ใช้ในการฝึกเท่านั้น ซึ่ง project44 อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการส่งมอบความสามารถอย่าง Movement GPT เนื่องจากชุดข้อมูลมีลักษณเฉพาะที่รวบรวมมาจากเส้นทางการจัดส่ง 1 พันล้านรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมูลค่าสินค้าคงคลังถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ของลูกค้าใน 181 ประเทศ นอกจากนี้ project44 ยังเป็นบริษัทเดียวที่มีทัศนสามารถครอบคลุมในทุกวิธีการและทุกพื้นที่ทางภูมิศาสตร์อยู่ภายในแพลตฟอร์มเดียว

“เป็นครั้งแรกที่เรากำลังฝึกโมเดล generative AI ให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในห่วงโซ่อุปทาน” “เราตื่นเต้นที่จะส่งมอบ Movement GPT ให้กับผู้ชำนาญการวิชาชีพด้านห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้งานของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้พวกเขาเอาชนะความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบันได้” — กล่าวโดย Jett McCandless ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ project44

นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท project44 เป็นผู้นำด้านวิทยาการข้อมูล และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) มีความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายประสาทเทียม และเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก บริษัทตระหนักรู้อย่างรวดเร็วว่า โมเดลภาษาขนาดใหญ่มีพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สามารถนำไปใช้ในห่วงโซ่อุปทาน และนำเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นไปรวมไว้ใน Movement ได้ อีกทั้งยังรวมเอาวิธีการรักษาความมั่นคงในระดับแนวหน้าเข้าไว้ด้วยกัน และยังเป็นไปตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ

เป็นครั้งแรกที่ Movement GPT ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนาโต้ตอบกันภายในแพลตฟอร์ม Movement ทำให้พวกเขามีความสามารถทั้ง การระบุการจัดส่งได้อย่างคล่องแคล่วโดยใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ ประหยัดเวลา สามารถปรับปรุงประสบการณ์ให้กับผู้ใช้โดยรวม และเป็นรูปแบบของการฝึกอบรมเพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานในกระบวนการ

หนึ่งในความสามารถแรกๆ ของ Movement GPT ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานได้จากการสนทนาโต้ตอบกับ Movement GPT ดังตัวอย่างแนวคำถามที่อาจพบได้ตามลักษณะต่อไปนี้

  • แสดงรายการจัดส่งทั้งหมดของฉันที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศทางตอนเหนือของยุโรป
  • สินค้าคงคลังที่รอการจัดส่งเหล่านั้นมีมูลค่าเท่าใด
  • สินค้าเหล่านั้นมีปลายทางอยู่ที่ไหน
  • มีตัวเลือกเส้นทางที่ไว้ใจได้มากขึ้นสำหรับการจัดส่งในครั้งต่อไปของฉันหรือไม่

การปรับปรุง Movement GPT ให้มีความก้าวล้ำนี้ เป็นการนำอินเทอร์เฟซแบบภาษาธรรมชาติและการสนทนาโต้ตอบในระดับสูงมาใช้เพื่อทัศนสามารถในห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น และจัดการกับการจัดส่งสินค้าของตนได้ง่ายกว่าที่เคย ด้วยพลังของ generative AI ทำให้แพลตฟอร์ม Movement ของ project44 กลายเป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับมืออาชีพด้านห่วงโซ่อุปทาน

project44 มุ่งมั่นที่จะปลดล็อกเวิร์กโฟลว์ และสร้างการสนทนาโต้ตอบกันเพิ่มเติมผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับบริษัทและอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นผู้นำตลาดในการเสนอวิธีการด้านห่วงโซ่อุปทานที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้

ด้วยศักยภาพของ generative AI ที่มีต่อการเปลี่ยนรูปแบบของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งในที่สุดแล้วทำให้ได้ห่วงโซ่อุปทานที่เป็นแบบอัตโนมัติ และสามารถทำการแก้ไขได้เอง นอกจากนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า project44 จะขยายความสามารถให้กับ Movement GPT มากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มภารกิจให้ทำโดยอัตโนมัติ และทำการวิเคราะห์และใช้ดุลพินิจในเชิงลึก

ที่มา: project44

About pawarit

Check Also

ไทยยูเนี่ยนรายงานกำไรสุทธิ 1 พันล้านไตรมาสแรกปี 66 หลังเรด ล็อบสเตอร์พลิกฟื้นทำกำไร

กรุงเทพมหานคร – 3 พฤษภาคม 2566 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ปี 2566 เผยแผนพลิกฟื้นธุรกิจให้กับเรด …

เทคนิคการไม่เปิดเผยตัวตนแบบ 3 มิติ เพื่อความปลอดภัยในที่ทำงาน ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และจริยธรรม AI ในระดับสูงสุด

Intenseye ผู้นำวิธีการสร้างความปลอดภัยในที่ทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI เปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร คือ เทคนิคการไม่เปิดเผยตัวตนแบบ 3 มิติ (3D anonymization) ที่จะปฏิวัติวงการเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในที่ทำงาน ขณะเดียวกันยังรักษาความเป็นส่วนตัวของพนักงานไว้ในระดับสูงสุด