Microchip เปิดโซลูชันระบบจ่ายไฟสำหรับการสั่งการแบบบูรณาการใหม่ เพื่อลดความซับซ้อนในการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมการบินไปสู่เครื่องบินพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ (More Electric Aircraft)

Microchip เปิดตัวบอร์ดไดรเวอร์ที่ใช้งานร่วมในกลุ่มที่สามารถกำหนดค่าได้ โดยใช้โมดูล Hybrid Power Drive ซึ่งมีอยู่ในเทคโนโลยีซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) หรือซิลิคอน (Si)

เป้าหมายที่ครอบคลุมเพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืนและการลดการปล่อยคาร์บอนเป็นแรงขับเคลื่อนต่อข้อกำหนดของอุตสาหกรรมการบินสำหรับเครื่องบินรุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและปล่อยมลพิษต่ำที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ผู้พัฒนาระบบพลังานการบินกำลังเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเนื่องจากแนวโน้มการก้าวไปสู่เครื่องบินพลังงานไฟฟ้า ( More Electric Aircraft (MEA)) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อุตสาหกรรมการบินมีโซลูชันการสั่งงานด้วยไฟฟ้าอย่างครอบคลุม วันนี้  Microchip Technology (Nasdaq: MCHP ) จึงได้ประกาศเปิดตัวโซลูชันระบบจ่ายไฟสำหรับการสั่งการแบบบูรณาการใหม่ ซึ่งรวมบอร์ดไดรเวอร์เกตที่ใช้งานร่วมกันเข้ากับโมดูล Hybrid Power Drive (HPD) ที่ขยายใหญ่ของเราในเทคโนโลยีซิลิคอนคาร์ไบด์หรือซิลิคอนที่มีช่วงกำลังไฟฟ้า 5 kVA ถึง 20 kVA

โซลูชันระบบจ่ายไฟสำหรับการสั่งการแบบบูรณาการใหม่จะคงพื้นที่การใช้งานเดิมไว้โดยไม่คำนึงถึงกำลังไฟฟ้าที่ส่งออก บอร์ดไดรเวอร์เกตที่ใช้งานร่วมกันได้รับการออกแบบให้ใช้งานร่วมกับโมดูล HPD ของ Microchip เพื่อให้มีโซลูชันการขับเคลื่อนมอเตอร์แบบครบวงจรสำหรับระบบไฟฟ้า เช่น ระบบควบคุมการบิน การเบรก และล้อลงจอด โซลูชันระบบจ่ายไฟของ Microchip ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับขนาดตามความต้องการของการใช้งานขั้นสุดท้าย ตั้งแต่ระบบการสั่งการขนาดเล็กสำหรับโดรน ไปจนถึงระบบการสั่งการกำลังสูงสำหรับเครื่องบินขึ้นลงและลงจอดในแนวดิ่งด้วยไฟฟ้า (Electric Vertical Take-Off and Landing (eVTOL)), MEA และเครื่องบินพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด

เราได้พัฒนาบอร์ดไดรเวอร์เกตที่ใช้งานร่วมกันเพื่อใช้กับโมดูล HPD ที่มีอยู่ของเราในการนำเสนอโซลูชันระบบจ่ายไฟแบบปลั๊กแอนด์เพลย์สำหรับ MEA” ลีออน กรอสส์ รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์แยกของ Microchip กล่าวว่า “ด้วยโซลูชันนี้ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องออกแบบและพัฒนาวงจรขับเคลื่อนของตนเองอีกต่อไป ซึ่งสามารถลดเวลา ทรัพยากร และต้นทุนในการออกแบบได้”

อุปกรณ์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงเหล่านี้ได้รับการทดสอบตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน DO-160 “สภาพแวดล้อมและขั้นตอนการทดสอบสำหรับอุปกรณ์ทางอากาศ” มีคุณสมบัติการป้องกันหลายประการ เช่น การตรวจจับทะลุ การป้องกันการลัดวงจร การป้องกันการทำให้สีอิ่มตัว การล็อคแรงดันไฟฟ้าตก (Under Voltage Lock Out (UVLO)) และแคลมป์มิลเลอร์แบบแอคทีฟ

บอร์ดไดรเวอร์เกตได้รับการออกแบบให้ขับเคลื่อนด้วยสัญญาณ PWM ภายนอกที่อิงตามการส่งสัญญาณความแตกต่างแรงดันไฟฟ้าต่ำ ( Low Voltage Differential Signaling (LVDS)) โดยเป็นไปตามมาตรฐาน TIA/EIA-644 ที่มีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Interference (EMI)) ต่ำและการป้องกันเสียงรบกวนที่ดี บอร์ดไดรเวอร์เกตมีเอาต์พุตส่วนต่างสำหรับสัญญาณโทรมาตร เช่น กระแสบัส DC กระแสเฟส และกระแสโซลินอยด์ โดยรับค่าป้อนกลับจากการสับเปลี่ยนที่มีอยู่ในโมดูล HPD และแรงดันไฟฟ้าบัส DC นอกจากนี้ยังมีเอาต์พุตโดยตรงของเซ็นเซอร์อุณหภูมิ PT1000 สองตัวที่มีอยู่ในโมดูลระบบจ่ายไฟ HPD

บอร์ดไดรเวอร์เกตที่ใช้งานร่วมกันเป็นโซลูชันน้ำหนักเบา โปรไฟล์ต่ำ และกะทัดรัด เพื่อปรับขนาดให้เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟของระบบสั่งการ ไดรเวอร์เกตได้รับการออกแบบให้ทำงานตลอดช่วงอุณหภูมิ −55°C ถึง +110°C ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานด้านการบินที่มักต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

บอร์ดไดรเวอร์เกตแบบแยกส่วนต้องใช้อินพุตกระแสตรง 15V เดียวเท่านั้นสำหรับวงจรควบคุมและไดรฟ์ แรงดันไฟฟ้าเพิ่มเติมที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้นบนการ์ด ซึ่งจะช่วยลดจำนวนส่วนประกอบของระบบลงอย่างมาก และลดความยุ่งยากในการเดินสายเคเบิลของระบบ

Microchip นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับ MEA โดยการบูรณาการผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานเข้ากับ FPGA ไมโครคอนโทรลเลอร์ การรักษาความปลอดภัย หน่วยความจำและเวลา โซลูชันของ Microchip ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าเร่งการพัฒนา ลดต้นทุน และออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น

การสนับสนุนและแหล่งข้อมูล

บอร์ดไดรเวอร์เกตที่ใช้งานร่วมกันมีเอกสารข้อมูลโดยละเอียดและรุ่นอุปกรณ์

ราคาและการวางจำหน่าย

บอร์ดไดรเวอร์เกตที่ใช้งานร่วมกันและโมดูล HPD ที่มาพร้อมกันมีจำหน่ายโดยการสั่งผลิต หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อตัวแทนฝ่ายขายของ Microchip