มาเลเซีย เตรียมฝึกอบรมวิศวกร 60,000 คน พร้อมจัดสรรเงิน 5,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หวังเป็นศูนย์กลางชิปแห่งใหม่

มาเลเซีย เตรียมฝึกอบรมยกระดับทักษะวิศวกร 60,000 คน พร้อมจัดสรรเงิน 5,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนงบประมาณสำหรับยุทธศาสตร์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งสู่การเป็นศูนย์กลางชิปแห่งใหม่ และด้วยการเติบโตของตลาด EV ทั่วโลก มาเลเซียอาจจะกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญในการจัดหาชิปพลังงานให้กับรถยนต์ EV ในอนาคตก็เป็นได้

ภายใต้ยุทธศาสตร์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ ที่ประกาศเมื่อวันอังคาร รัฐบาลมาเลเซียจะจัดสรรเงินอย่างน้อย 25,000 ล้านริงกิต หรือ 5,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า เพื่อส่งเสริมผู้มีความสามารถและขยายบริษัทในท้องถิ่น ด้วยเงินทุนที่จัดหาโดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (sovereign wealth funds) ของมาเลเซีย เช่น Khazanah Nasional

กลยุทธ์นี้มีเป้าหมายเพื่อฝึกอบรมพนักงาน 60,000 คนในด้านต่างๆ ของการผลิตชิป ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ และการทดสอบ โปรแกรมการฝึกอบรมจะเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยและบริษัทต่าง ๆ การมีวิศวกรท้องถิ่นที่มีทักษะมากขึ้นถือเป็นสิ่งสำคัญหากมาเลเซียจะดึงดูดการลงทุนจากผู้ผลิตชิประดับโลกได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลหวังว่าจะมีการผลิตชิปขั้นสูงมากขึ้นในประเทศ

ตามกลยุทธ์ดังกล่าว รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าที่จะดึงดูดการลงทุน 500,000 ล้านริงกิตผ่านการลงทุนโดยตรงในประเทศ (DDI) และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) นอกจากนี้ยังจะสนับสนุนวิศวกรท้องถิ่นในการสร้างทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบของการออกแบบชิป โดยการรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของมาเลเซียได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 ทศวรรษที่แล้ว เพื่อบทบาทในการจัดหาบริการบรรจุภัณฑ์ การประกอบ และการทดสอบชิปประมาณ 13% ทั่วโลก ตามข้อมูลของหน่วยงานพัฒนาการลงทุนของมาเลเซีย

ชิปกำลังเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพลังงานและเทคโนโลยีการลดการปล่อยคาร์บอน และผ่านทางแผนแม่บทอุตสาหกรรมใหม่ของมาเลเซียปี 2030 (NIMP 2030) และแผนงานการเปลี่ยนผ่านพลังงานแห่งชาติ (NETR) มาเลเซียมีตัวขับเคลื่อนนโยบายและสิ่งจูงใจที่เหมาะสมสำหรับบริษัทที่ลงทุนด้านการผลิต

เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการนำไปใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบทวีคูณ ตัวอย่างเช่น Netflix ใช้เวลา 3 ปีครึ่งในการเข้าถึงผู้ใช้หลายล้านคน Facebook ใช้เวลา 10 เดือน Instagram ใช้เวลา 2 เดือนครึ่ง และ ChatGPT ใช้เวลาเพียง 5 วัน ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มาเลเซียพยายามเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมที่แข็งแกร่งในการก้าวขึ้นสู่ระดับผู้นำด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์

เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้การลงทุนที่ไม่ถูกอย่างแน่นอน อย่าง TSMC ผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกในไต้หวันใช้งบประมาณรายจ่ายด้านการลงทุนอยู่ที่ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 แม้ว่ามาเลเซียจะต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะไปถึงจุดหมายเดียวกันนี้ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ มาเลเซียแสดงให้เห็นถึงความมุ่งเน้นในส่วนอื่น ๆ ของ ห่วงโซ่คุณค่า ตัวอย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งมีชิปมากกว่า 3,000 ชิ้น มากกว่ารถยนต์ ICE เครื่องยนต์สันดาปภายใน 2 ถึง 5 เท่า

ท้ายที่สุดแล้ว ยุทธศาสตร์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ อาจจะเป็นหนทางสำหรับมาเลเซียในการพัฒนาและทำให้เทคโนโลยีเป็นประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางชิปแห่งใหม่ ล่าสุด รัฐบาลมาเลเซียได้เปิดตัว “Golden Pass” และแพ็คเกจจูงใจอื่น ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อดึงดูดบริษัทร่วมลงทุนและบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้ยังประกาศจัดตั้งศูนย์กลางการออกแบบชิปครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคในรัฐอุตสาหกรรมสลังงอร์ ใกล้เมืองหลวง

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Business/Tech/Semiconductors/Malaysia-to-train-60-000-engineers-in-bid-to-become-chip-hub