[สัมภาษณ์] ดร.คมกริช ไพฑูรย์ Country Director-PSS แห่ง Honeywell System (Thailand) กับแนวโน้มธุรกิจ Cold Chain

ดร.คมกริช ไพฑูรย์ Country Director-PSS แห่ง Honeywell System (Thailand) เผยแนวโน้มของธุรกิจ Cold Chain ที่มีบทบาทสำคัญในการค้าโลก การดำเนินธุรกิจ Cold Chain ที่ไม่สามารถวัดผลประสิทธิภาพได้อาจส่งผลทำให้อาหารและยานับพันล้านรายการต้องสูญเสียคุณภาพ พร้อมชวนองค์กรต่าง ๆ มารับชมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยปลดล็อกอุปสรรคเหล่านี้ได้ที่งาน Cold Chain Exhibition 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 ก.ค. ณ ไบเทค บางนา ภายใต้แนวคิดการนำเสนอโซลูชัน Cold Storage, Cold Logistics, Refrigeration, Cold Supply Chain และ Reefer Trucks เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม 4.0

  • Honeywell นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจ Cold Chain
  • New!!! Honeywell เปิดตัว SwiftDecoder Vision Software
  • Honeywell Voice สำหรับ Maintenance & Inspection
  • Honeywell Operational Intelligence (OI) การจัดการสินทรัพย์
  • Honeywell มุ่งสร้างผลลัพธ์ด้าน ESG

Honeywell มีประวัติศาสตร์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียาวนานกว่า 139 ปี บริษัทได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 มีสำนักงานใหญ่ในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา โดยดำเนินธุรกิจหลักใน 4 ด้าน ได้แก่ การบินและอวกาศ ระบบอัตโนมัติในอาคาร วัสดุและเทคโนโลยีสมรรถนะสูง (PMT) และโซลูชันด้านความปลอดภัยและความสามารถในการผลิต (SPS) ในปี 2023 บริษัทมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 95,000 คน นอกจากนี้ Honeywell ยังเป็นบริษัทใน Fortune 500 โดยอยู่ในอันดับที่ 115 ในปี 2023

Honeywell ผู้ริเริ่มและคิดค้นนวัตกรรมบาร์โค้ดรายแรกของโลก ช่วยบุกเบิกตลาดการสแกนบาร์โค้ดในช่วงทศวรรษ 1970 และในช่วง 50 กว่าปีที่ผ่านมา นวัตกรรมใหม่ ๆ ของบริษัทได้ช่วยให้ผู้ค้าปลีก ศูนย์กระจายสินค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ และองค์กรด้านการดูแลสุขภาพบรรลุการปรับปรุงที่สำคัญในด้านประสิทธิภาพ ความเร็ว และความแม่นยำในการดำเนินงาน

“เรามุ่งเน้นไปที่การนำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทลายกำแพงอุปสรรครูปแบบต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้งาน ด้วยประสบการณ์ 50 ปีในฐานะผู้ริเริ่มและคิดค้นนวัตกรรมบาร์โค้ดรายแรกของโลก อุปกรณ์และแพลตฟอร์มภายใต้แบรนด์ Honeywell ถูกออกแบบบนพื้นฐานของความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทุกพฤติกรรมที่ผู้ใช้งานต้องการ” ดร.คมกริช กล่าวตอกย้ำประสบการณ์ที่ยาวนานสู่การถ่ายทอดนวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่ยืดหยุ่น

นอกจากนี้ ดร.คมกริช ได้เผย 5 แนวคิดเชิงกลยุทธ์ของ Honeywell เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก้าวสู่การเปลี่ยนผ่าน Industry 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Cold Chain เป็น Supply Chain ประเภทหนึ่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนการขนส่ง การจัดเก็บ กระบวนการกระจายสินค้า และการส่งมอบไปยังผู้ใช้หรือผู้บริโภคปลายทาง

Honeywell ชูศักยภาพของ CK65 อุปกรณ์ Mobile Computer แบบพกพาที่ถูกออกแบบสำหรับงาน Cold Storage โดยเฉพาะ สามารถทำงานได้ภายใต้อุณหภูมิจุดเยือกแข็ง -30°C (-22°F) มีความทนทานเป็นพิเศษสามารถรองรับการตกกระแทกบนพื้นคอนกรีตได้ที่ความสูง 3 เมตร (10 ฟุต) รวมถึงความสามารถในการป้องกันฝุ่นและละลองน้ำด้วยมาตรฐานระดับ IP65 และ IP68 นอกจากนี้ CK65 ยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจยาวนานมากขึ้นด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 28 ชั่วโมง

CK65 มาพร้อมหัวอ่านบาร์โค้ด 1D / 2D ในตัว ครอบคลุมระยะการอ่านบาร์โค้ดทั้งใกล้ กลาง และระยะไกล เป็นอุปกรณ์ Mobility Edge แพลตฟอร์มระดับ Enterprise ที่มีเครื่องมือพร้อมใช้งานสำหรับทุกสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 4 นิ้ว (480 x 800) ชิปประมวลผล 2.2 GHz Qualcomm 64-bit Snapdragon แบบ 8 Core เพิ่มความยืดหยุ่นที่หลากหลายและคล่องตัวสูงด้วยแป้นคีย์แพดแบบ 51 or 53-key alpha numeric, 38 or 42-key numeric function หรือ 30-key large numeric เพื่อตอบโจทย์ในทุกการนำเข้าข้อมูลที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของแต่ละองค์กร

“ตลาด Cold Chain มีแนวโน้มการเติบโตมาตั้งแต่ปี 2023 และคาดว่าจะยังคงเร่งอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปถึงปี 2030 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงการบูรณาการด้าน IoT การติดตาม GPS และระบบตรวจสอบอุณหภูมิ” ดร.คมกริช กล่าวว่า “Cold logistics และ refrigerated food storage เทรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเด่นชัดมากที่สุด เพื่อเร่งเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลสำหรับการรักษาคุณภาพของอาหารและยา เทรนด์รองลงมา คือ บรรจุภัณฑ์ ซึ่งยังคงมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับภาชนะ กล่อง ถุงเย็น ฉลาก และอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับควบคุมอุณหภูมิ”

Honeywell เปิดตัว Swiftdecoder Vision Software ครั้งแรกในไทย ที่งาน Cold Chain Exhibition 2024

ฟีเจอร์เด่นของ SwiftDecoder:

  • สแกนใบขับขี่ หนังสือเดินทาง บัตรผ่านขึ้นเครื่อง และแบบฟอร์มทั่วไปอื่น ๆ โดยใช้ OCR (รองรับได้หลายประเทศทั่วโลก)
  • เปลี่ยนอุปกรณ์ของคุณให้เป็นสแกนเนอร์อันทรงพลังด้วย SwiftDecoder
  • การสแกนบาร์โค้ด การจับข้อมูล การแยกวิเคราะห์ข้อมูลและอื่น ๆ อีกมากมายที่ง่ายและสะดวก
  • การสแกนบาร์โค้ดเป็นชุด ได้สูงสุด 50 บาร์โค้ด
  • SwiftDecoder เป็น SDK ที่ยืดหยุ่น เชื่อถือได้ และเรียบง่าย

บริษัทต่างๆ ทั่วโลกใช้โซลูชัน SwiftDecoder Vision ของ Honeywell เพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนการทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

SwiftDecoder แปลงอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานกล้องให้เป็นเครื่องสแกนบาร์โค้ดที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปปรับใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคีออสก์ เพื่อการใช้งานด้านการค้าปลีกและโลจิสติกส์ที่หลากหลาย การวิจัยด้านธุรกิจค้าปลีกชี้ให้เห็นว่า “ประสบการณ์ของลูกค้ามีอิทธิพลอย่างมากต่อความภักดีและการซื้อในอนาคต” โซลูชันใหม่ของ Honeywell มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและประสิทธิภาพการดำเนินงาน SwiftDecoder จะช่วยให้การจัดการสินค้าคงคลัง และการให้รายละเอียดผลิตภัณฑ์ คล่องตัวและแม่นยำยิ่งขึ้น

SwiftDecoder คือซอฟต์แวร์ถอดรหัสบาร์โค้ดแบบ SDK ที่ใช้งานง่ายซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาแอปแบบเนทีฟหรือแบบไฮบริดที่ทำการถอดรหัสบาร์โค้ดและอื่น ๆ อีกมากมาย SwiftDecoder ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับและประมวลผลข้อมูลและรูปภาพได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ในขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนที่สุดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึง Healthcare, Retail, T&L, Field Service, Warehouse, Hospitality และอื่นๆ

บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกใช้สแกนบาร์โค้ดนับล้านในแต่ละวัน SwiftDecoder เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เปิดใช้ฟีเจอร์กล้องให้เป็นเครื่องสแกนบาร์โค้ดที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้บันทึกข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ องค์กรที่สนใจ SwiftDecoder สามารถทดลองใช้งานฟรี 60 วัน ได้ที่ https://sps.honeywell.com/us/en/campaigns/productivity/swiftdecoder-trial-request หรือดาวน์โหลดโปรแกรม Demo ได้ฟรีจาก Google Play Store หรือ iOS App Store

Honeywell เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับการบำรุงรักษาและการตรวจสอบด้วยเสียง (M&I)

จุดเด่นของ Honeywell Voice :

  • แพลตฟอร์ม Multi-Modal ที่ยืดหยุ่น : รองรับการใช้งานกับธุรกิจได้หลายประเภท Fleet, Aero, Mfg. และอื่นๆ โดยสามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Talkman, Android, iOS รวมถึง Honeywell Voice ยังเป็นโซลูชันที่แข็งแกร่งตั้งแต่แกะกล่องและปรับแต่งได้เพื่อให้เหมาะกับความต้องการในการปฏิบัติงานแทบทุกรูปแบบ
  • การมองเห็นขั้นตอนการทำงานแบบ end-to-end : เพื่อให้ทราบว่าพนักงานคนไหนทำกิจกรรมใด ณ จุดใด เพื่อทำความเข้าใจภาพรวมและตัดสินใจอย่างมีข้อมูลได้ดีขึ้น
  • การแปลงข้อมูลเป็นดิจิทัล : ข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและจัดเก็บแบบดิจิทัลผ่านเสียงพูดสู่ผลลัพธ์ ทำความเข้าใจแบบเรียลไทม์ว่าอะไรเป็นตัวขับเคลื่อนคุณภาพ กำหนดเกณฑ์มาตรฐาน และเพิ่มเวลาทำงาน

โซลูชัน Voice ของ Honeywell รองรับคำสั่งด้วยเสียงได้สูงสุด 48 ภาษา ผสานการทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ AI ช่วยให้เข้าใจคำพูดของพนักงานในภาษาต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์ด้านภาษาถิ่น และแม้แต่การออกน้ำเสียงที่แตกต่างกัน การปรับใช้โซลูชัน Voice จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตได้มากกว่า 30% ผ่านความถี่วิทยุ (RF) ช่วยเพิ่มความแม่นยำในกระบวนการ picking ได้ถึง 99%

Operational Intelligence เป็นโซลูชัน SaaS ที่ช่วยให้ลูกค้าใช้ข้อมูลที่กำหนดเพื่อดำเนินการอย่างชาญฉลาดและเรียกใช้เวิร์กโฟลว์ที่แก้ไขปัญหาได้ โซลูชันนี้นำเสนอข้อมูลเชิงลึก การจัดการสินทรัพย์ และระบบอัตโนมัติโดยเฉพาะ ด้วยการผสานรวมข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ขั้นสูง แพลตฟอร์ม OI ของ Honeywell จะตรวจจับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ โดยใช้อุปกรณ์ IoT ของลูกค้าเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่มีคุณค่า

ฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุงนี้ไม่เพียงแต่ทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น แต่ยังเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อีกด้วย ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการสินทรัพย์ (Asset Management)

  • Honeywell Operational Intelligence Enterprise Cloud
  • Honeywell Operational Intelligence Performance Professional Cloud
  • Honeywell Operational Intelligence Standard Cloud

Honeywell Operational Intelligence เป็นซอฟต์แวร์ที่นำเสนอมากกว่าแค่การให้ข้อมูลเท่านั้น ก้าวไปอีกขั้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลนั้นและแปลงเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง แม้แต่ข้อมูลที่คุณไม่รู้ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม นอกเหนือจากการให้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแล้ว Honeywell Operational Intelligence ยังเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติที่ช่วยจัดการขั้นตอนการทำงานและการหยุดชะงักแบบเรียลไทม์

Honeywell นำเสนอเทคโนโลยีเชื้อเพลิงทดแทนและวิธีการทางดิจิทัลสำหรับผู้ดำเนินการโรงกลั่น ซึ่งเป็นหนทางไปสู่เชื้อเพลิงทดแทนได้รวดเร็วและคุ้มค่า และมีความสำคัญต่อการลดการปล่อยคาร์บอนในระยะยาว

ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเชื้อเพลิงทดแทน Honeywell ตระหนักดีว่าการสร้างเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถผลิตเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำจากตัวเลือกวัตถุดิบทดแทนต่าง ๆ มีความสำคัญต่อการลดการปล่อยคาร์บอนในระยะยาวทั่วเอเชียแปซิฟิก ความสามารถในการใช้วัตถุดิบตั้งต้นชนิดต่าง ๆ ถือเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสำหรับตลาดนี้ ด้วยเทคโนโลยี UOP eFining, Ecofining, ETJ และ RTP ทำให้ Honeywell สามารถเสนอเส้นทางออกสู่ตลาดได้หลายเส้นทาง เพื่อตอบสนองความต้องการเชื้อเพลิงทดแทนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

กลุ่มผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงทดแทนของ Honeywell ประกอบด้วย

  • Honeywell Ecofining เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและมีการใช้ทั่วโลกมานานหลายปี โดยผลิต SAF ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (ข้อมูลตามการวิเคราะห์ LCA ที่ดำเนินการโดย Michigan Technological University ภายใต้การดูแลของ Dr. David Shonnard)
  • Ethanol to Jet fuel (ETJ) โดยขึ้นอยู่กับประเภทของวัตถุดิบเอทานอลที่นำมาใช้ เชื้อเพลิงเครื่องบินที่ผลิตจากกระบวนการ ETJ ของ Honeywell สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 80 บนพื้นฐานวงจรชีวิตทั้งหมด เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ใช้ปิโตรเลียม (อ้างอิงตาม LCA โดยข้อสรุปของ EPA เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับอ้อย)
  • Honeywell UOP eFining แปลง eMthanolol เป็น eSAF ได้อย่างน่าเชื่อถือและได้ทุกขนาด โดย eFining ของ Honeywell UOP สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 88% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงเครื่องบินทั่วไป (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ความเข้มข้นของคาร์บอน UOP ซึ่งได้มาจากการศึกษาของบุคคลที่สามเกี่ยวกับการผลิตเมทานอลจากไฮโดรเจนสีเขียว และ CO₂ ที่ดักจับได้จากกระบวนการทางชีวมวล เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล)
  • Rapid Thermal Processing (RTP) แปลงวัตถุดิบชีวมวลให้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เพื่อการให้ความร้อน กำลังไฟฟ้า และการขนส่ง

Honeywell นำเสนอวิธีการ Experion สำหรับความมั่นคงทางไซเบอร์ และวิธีการทางดิจิทัล Forge Performance+ โดยการฝังความรู้ด้านกระบวนการไว้ในระบบอัตโนมัติ โดยใช้ประโยชน์จากเซนเซอร์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป Virtual Technology และ Digital Twin ขณะเดียวกันก็สร้างปัญญาประดิษฐ์ที่มีมนุษยธรรมเพื่อการดำเนินงานที่พร้อมสำหรับอนาคต

Honeywell มุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายใต้การดำเนินงานและโรงงานต่าง ๆ ภายในปี พ.ศ. 2578 โดยที่การลงทุนประมาณ 60% ของ Honeywell เป็นส่วนของการวิจัยและพัฒนาสำหรับการริเริ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี พ.ศ. 2565 ได้มุ่งตรงไปที่การสร้างผลลัพธ์ด้าน ESG ให้กับลูกค้า

หากสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันและผลิตภัณฑ์ของ Honeywell สามารถติดต่อได้ทันทีที่ VST ECS ตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ Honeywell ในประเทศไทย

อีเมล : [email protected] | [email protected]

โทร. : 0 2032 9999

About pawarit

Check Also

อินโดรามา เวนเจอร์ส ประกาศใช้ระบบ Taulia ของ SAP เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการระบบห่วงโซ่อุปทาน

SAP ได้ประกาศว่า บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Taulia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนหมุนเวียนภายใต้โครงการของบริษัทฯ ในการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานด้านการผลิตทั่วโลก ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย …

พลิกโฉมบ้าน สู่พลังสะอาด กับ Comsys Solar พร้อมเผยบริการใหม่ “รับประกันติดตั้ง 10 ปี กล้าการันตีเจ้าเดียวในไทย”

Comsys Solar No.1 โซลาร์บ้าน ผู้บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มีจำนวนไซต์มากที่สุดในประเทศไทย โดยในปี 2024 บริษัทฯ ได้ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2024 “รับประกันติดตั้ง 10 ปี กล้าการันตีเจ้าเดียวในไทย” โดยจะดูแลในเรื่องการล้างแผงโซลาร์ …