ในการประชุมสุดยอดภายใต้หัวข้อ “เร่งความอัจฉริยะในอุตสาหกรรมด้วยเครือข่ายซิงเหอ” (Accelerate Industry Intelligence with Xinghe Network) ซึ่งจัดขึ้นในงานหัวเว่ย คอนเนกต์ (HUAWEI CONNECT) ประจำปี 2566 รัฐบาลและตัวแทนอุตสาหกรรมมากกว่า 800 ราย ได้มารวมตัวกันเพื่อหารือถึงแนวทางที่เทคโนโลยีเครือข่าย AI จะพลิกโฉมอนาคตของเรา โซลูชันเครือข่ายซิงเหอของหัวเว่ยสร้างขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปอุตสาหกรรมจำนวนมากสู่ระบบอัจฉริยะ และได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยคุณลีออน หวัง (Leon Wang) ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย
ระบบอัจฉริยะในอุตสาหกรรมได้กลายมาเป็นเทรนด์โลก และโมเดล AI ก็แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการเกิดขึ้นของแชตจีพีที (ChatGPT) ผลิตภัณฑ์ระดับปรากฏการณ์ที่ก่อให้เกิดกระแสของ AIGC และช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางที่เทคโนโลยี AI จะเข้ามาฟื้นฟูอุตสาหกรรมจำนวนมาก เนื่องจากการฝึกโมเดลพื้นฐานมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น การพัฒนา AI ได้ก้าวข้ามจุดเปลี่ยนสำคัญและกำลังก้าวหน้าไปไกลกว่าการนำมาใช้เพียงเพื่อความบันเทิง แต่ยังถูกนำไปใช้ในบริบททางวิชาชีพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
คุณลีออน หวัง กล่าวว่า บริการคลาวด์คอมพิวติ้งอัจฉริยะเป็นเทรนด์ในยุคอัจฉริยะของอุตสาหกรรมและจะผนวกรวม 3 ส่วน ได้แก่ การผลิตพลังการประมวลผล การส่งผ่าน และการเข้าถึง เครือข่ายคลาวด์คอมพิวติ้งอัจฉริยะที่ให้บริการดังกล่าวต้องอาศัยเครือข่ายเพื่อมารองรับการฝึกที่มีประสิทธิภาพ พลังการประมวลผลที่ต่อเนื่อง และบริการ AI ที่ครอบคลุม โซลูชันเครือข่ายซิงเหอของหัวเว่ยปลดปล่อยพลังการประมวลผลอย่างเต็มที่ด้วยการเชื่อมต่อขั้นสูงสำหรับประสิทธิภาพการทำงานของ AI ที่ไม่มีใครเทียบได้ในยุค AI อีกทั้งยังมีคลัสเตอร์การ์ดคอมพิวติ้งมากถึง 100,000 ใบ และปริมาณงานที่สูงเป็นพิเศษ ด้วยอัตราการโหลดมากกว่า 95% ความเสถียรและความน่าเชื่อถือระยะยาวนี้ทำให้สามารถคาดการณ์ข้อผิดพลาดของเครือข่ายและแก้ไขได้ภายในไม่กี่วินาที นอกจากนี้ โซลูชันนี้ยังช่วยจัดการการไหลของข้อมูลได้อย่างแม่นยำทั้งข้อมูลขนาดใหญ่เท่าช้างและขนาดเล็กเท่าหนู และรองรับความยืดหยุ่นสูงและการทำงานพร้อมกันเพื่อต้านทานการเสื่อมประสิทธิภาพ
คุณจาง เหลียง (Zhang Liang) หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ประจำกลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย อธิบายว่า ชุดเทคโนโลยีโดยรวมที่ใช้ในโซลูชันเครือข่ายซิงเหอของหัวเว่ยนั้นสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีสำคัญที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลัก เช่น ปริมาณงานที่สูงเป็นพิเศษ ความเสถียรและความน่าเชื่อถือระยะยาว และความยืดหยุ่นและการทำงานพร้อมกันสูง
- ปริมาณงานที่สูงเป็นพิเศษ: ด้วยอัลกอริทึม Next Step of Load Balancer (NSLB) ระดับโลกเฉพาะตัวของหัวเว่ย โซลูชันดังกล่าวสามารถกำหนดเวลาการทำงานร่วมกันระหว่างคอมพิวติ้งกับเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งยกระดับปริมาณงานเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพจากค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเพียง 50% เป็น 98% ได้อย่างน่าทึ่ง
- ความเสถียรและความน่าเชื่อถือระยะยาว: โซลูชันดังกล่าวใช้เทคโนโลยี O&M แบบแสดงภาพที่ครอบคลุม เพื่อแสดงภาพเส้นทางเครือข่ายและการไหลของข้อมูลแบบเรียลไทม์ระหว่างการฝึกโมเดลพื้นฐาน อีกทั้งโซลูชันนี้ยังช่วยให้สามารถกู้คืนความล้มเหลวได้ภายในเวลาเสี้ยววินาที ผ่านเทคโนโลยีการตรวจจับข้อยกเว้นในชั้นข้อมูลที่ใช้ PacketEvent และเทคโนโลยี Data Plane Fast Recovery (DPFR)
- ความยืดหยุ่นและการทำงานพร้อมกันสูง: เทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของหัวเว่ยสำหรับการกำหนดเวลาหลายเส้นทางอัจฉริยะ โหลดบาลานซิ่งแบบรับรู้การไหลของข้อมูล และการปกปิดการสูญเสียแพ็กเก็ต (PLC) แบบปรับได้ ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลระดับเทระไบต์ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้ขีดความสามารถในการส่งข้อมูลรวดเร็วเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า
การเปิดตัวดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญของหัวเว่ยในการมีส่วนร่วมปฏิรูปอุตสาหกรรมจำนวนมากสู่ระบบอัจฉริยะ ในยุคของ AI นั้น เครือข่ายซิงเหอของหัวเว่ยส่งมอบพลังการประมวลผลที่ไร้ขีดจำกัดผ่านการเชื่อมต่อได้ทุกแห่งหน พร้อมนำเสนอบริการเครือข่าย AI ขั้นสูงและอัจฉริยะยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งานทั่วโลก