Honda เปิดตัว EV ต้นแบบ Honda 0 Saloon และ Honda 0 SUV ครั้งแรกในโลกที่งาน CES 2025 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ASIMO OS

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2025 ในงาน CES 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา Honda ได้เปิดตัวรถต้นแบบ 2 รุ่นในงาน ได้แก่ Honda 0 Saloon และ Honda 0 SUV และกำหนดจะเริ่มออกสู่ตลาดทั่วโลกในปี 2026 นอกจากนี้ Honda ยังได้เปิดตัวระบบปฏิบัติสำหรับการยานยนต์ (OS) แบบดั้งเดิมของตนเอง นั่นก็คือ ASIMO OS ที่จะมาพร้อมอยู่ในรถ Honda 0 Series อีกด้วย

Honda 0 Saloon

รถต้นแบบรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเตรียมเปิดตัวสู่ตลาดในปี 2026 โดยยังคงการออกแบบสไตล์ของรถรุ่นต้นแบบเอาไว้อย่างชัดเจน โดยรถต้นแบบรุ่นนี้ถูกออกแบบมาในสไตล์สปอร์ต ซึ่งทำให้ Saloon แตกต่างจากรถ EV รุ่นอื่น ๆ และมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง

Honda 0 Saloon เป็นรุ่นเรือธงของ Honda 0 Series จะใช้สถาปัตยกรรม EV เฉพาะที่พัฒนาขึ้นใหม่ และจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีรุ่นถัดไปที่จะมาสะท้อนถึงแนวคิดของการพัฒนา “บาง เบา และชาญฉลาด” ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติที่มีความน่าเชื่อถือสูงซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Level 3 ซึ่ง Honda ได้นำมาใช้จริงเป็นครั้งแรกในโลก รวมถึงฟังก์ชัน ultra-personal optimization ที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งจะถูกขับเคลื่อนด้วย ASIMO OS

Honda 0 SUV

Honda ได้นำเสนอต้นแบบของรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดกลาง ซึ่งจะเป็นรถยนต์ Honda 0 Series รุ่นแรก ด้วยการใช้แนวคิด “บาง เบา และชาญฉลาด” กับรถยนต์ SUV ทำให้มีพื้นที่ภายในเพิ่มขึ้น และห้องโดยสารที่กว้างขวางก็ได้รับการปรับปรุงให้มีมุมมองที่ชัดเจนและไร้ขีดจำกัด รวมถึงความยืดหยุ่นที่ยอดเยี่ยม

รถยนต์ Honda 0 SUV จะนำเสนอเทคโนโลยีรุ่นถัดไปจำนวนมากซึ่งรวบรวมแนวทางการพัฒนา “บาง เบา และชาญฉลาด” ของ Honda 0 Series ไว้ด้วยกัน รถยนต์รุ่นนี้จะนำเสนอความคุณค่าในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่ภายในผ่านฟังก์ชัน ultra-personal optimization และ UX ดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย ASIMO OS นอกจากนี้ Honda 0 SUV จะใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์ 3D gyro เพื่อการควบคุมการทรงตัวที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Honda รวบรวมมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ดั้งเดิม เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่บนพื้นผิวถนนประเภทต่าง ๆ

ASIMO OS

Honda 0 Series จะติดตั้ง ASIMO OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการดั้งเดิมสำหรับรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นเอง ASIMO คือหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่สามารถเดินได้เอง ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเทคโนโลยีพื้นฐานของ Honda โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือผู้คน Honda เริ่มการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ในปี 1986 และเปิดตัว ASIMO ในปี 2000 ASIMO กลายเป็นสัญลักษณ์ในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่ช่วงปี 2000 จนถึงปี 2010 และได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกนับจากนั้นเป็นต้นมา

Honda ตั้งชื่อ ASIMO ให้กับระบบปฏิบัติการสำหรับยานยนต์รุ่นนี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักใน Honda 0 Series โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ Honda 0 Series เป็นสัญลักษณ์แห่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นถัดไป โดยหน้าที่หลักของแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ ASIMO OS จะใช้สำหรับการควบคุมแบบบูรณาการของหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) สำหรับระบบยานยนต์ เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ/ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (AD/ADAS) และระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถยนต์ (IVI)

นอกจากนี้ จะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ในรถยนต์ตาม ASIMO OS อย่างต่อเนื่องผ่านการอัปเดตแบบ Over the Air (OTA) แม้หลังจากซื้อรถยนต์แล้ว ฟังก์ชันและบริการต่าง ๆ จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามความต้องการและความชอบของผู้ใช้แต่ละคน ฟังก์ชันและบริการต่าง ๆ ที่ต้องอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ฟังก์ชันที่เพิ่มมูลค่าให้กับ Space และ UX ดิจิทัล ซึ่งช่วยให้ประสบการณ์การเดินทางเพลิดเพลินและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และระบบควบคุมไดนามิกแบบบูรณาการที่เป็นเอกลักษณ์ของ Honda ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์

ที่มา : https://global.honda/en/newsroom/news/2025/c250108aeng.html

About pawarit

Check Also

P&R Measurement สร้างนิยามใหม่ของการใช้งานทางอุตสาหกรรมและการผลิตแบบยืดหยุ่น

P&R Measurement ผู้มีบาทบาทสำคัญด้านอุตสาหกรรมการวัดและควบคุม เปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในงาน CES 2025 สหรัฐอเมริกา โดยนำเสนอวิธีการที่ล้ำสมัยสำหรับการใช้งานทางอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการผลิตแบบยืดหยุ่น พร้อมมุ่งสู่วิสัยทัศน์ใหม่ที่ว่า “ส่งเสริมให้ทุกคนเป็นผู้สร้างนวัตกรรม” โดยเน้น “การใช้งานในทางอุตสาหกรรมด้วย AI …

CATL เผย จีนกำลังเร่งผลักดันแบตเตอรี่ EV แบบ Battery-Swapping ภายในปี 2025

ถ้ามีสถานีหรือจุดบริการสำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Swapping ที่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายใน 5 นาที มันจะกลายเป็นประเด็นสำคัญอย่างแน่นอน เนื่องจากเวลาในการชาร์จยังคงเป็นประเด็นที่ผู้ซื้อรถ EV ยังกังวล แม้แต่หัวชาร์จแบบ Super Charge ที่เร็วที่สุดก็อาจใช้เวลาอย่างน้อยราว 15 นาทีในการชาร์จให้เต็ม