Autodesk Inc. ประกาศเปิดตัว Autodesk AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะมาปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ ช่วยแก้ปัญหา และกำจัดงานที่ไม่ก่อประสิทธิผลในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีการออกแบบและสร้างโลกอยู่รายรอบตัวเรา โดยขณะนี้มีพร้อมใช้งานแล้วในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Autodesk และมาพร้อมกับ Design and Make Platform

Autodesk AI มีความสามารถในการให้ความช่วยเหลือและการสร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างชาญฉลาด ช่วยให้ลูกค้ามีจินตนาการและสำรวจได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกันก็ให้ผลลัพธ์ที่ละเอียด แม่นยำ และเป็นนวัตกรรม
Andrew Anagnost ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Autodesk กล่าวว่า — “ในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้สำหรับอุตสาหกรรมการออกแบบและสร้าง Autodesk มองว่า AI เป็นหนทางสำหรับลูกค้าของเราในการรับมือกับความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญ และเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้เป็นโอกาส” “Autodesk AI เป็นตัวช่วยที่สามารถลดเส้นโค้งการเรียนรู้สำหรับนักออกแบบและวิศวกร เพิ่มผลิตภาพ และเร่งสร้างนวัตกรรม”
มีเทคโนโลยีเพียงไม่กี่อย่างที่มีศักยภาพเท่ากับ AI โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำวิจัยในระดับแนวหน้าด้าน AI มานานหลายปีแล้ว จึงทำให้ Autodesk อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในการพัฒนา AI ในด้านการออกแบบและการผลิตที่มีความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปัจจุบันนี้ AI Lab ของ Autodesk ได้พิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิมาแล้วมากกว่า 60 ฉบับ โดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับความก้าวหน้าในด้าน AI และ Generative AI
Anagnost กล่าวอีกว่า — “AI คือ อนาคตของการออกแบบและสร้าง และ Autodesk กำลังบุกเบิกการเปลี่ยนผ่านในสิ่งนี้” “เราเป็นจุดเชื่อมต่อของอุตสาหกรรมที่สร้างสรรค์และสร้างผลกระทบมากที่สุดในโลก เราจะลงทุนใน AI ต่อไป เนื่องจาก AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนรูปแบบการขับเคลื่อนที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพื่อธุรกิจของลูกค้าและโลกของเรา”
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาคารและทางหลวงสายใหม่ การผลิตผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์แบบอัจฉริยะ หรือการสร้างสื่อและความบันเทิงให้มีความน่าสนใจ Autodesk AI ช่วยให้ลูกค้าพบกับช่วงเวลานั้นได้ ไม่ใช่แค่เพียงเพิ่มผลิตภาพ แต่ยังมอบเครื่องมือที่ทำให้พวกเขามีความทะเยอทะยานและสร้างสรรค์ได้มากขึ้นอีกด้วย
ในรายงานพิเศษ State of Design and Make ประจำปี ค.ศ. 2024 เกี่ยวกับ AI ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ มีบริษัทที่ตอบแบบสำรวจถึง 77% กล่าวว่า พวกเขากำลังวางแผนที่จะเพิ่ม AI หรือเพิ่มการลงทุนด้าน AI ให้แรงขึ้นไปในอีกสามปีข้างหน้า ขณะที่ผู้นำที่ทำการสำรวจ 66% ยอมรับว่า ภายในสองถึงสามปี AI จะกลายเป็นสิ่งจำเป็น
Raji Arasu ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Autodesk กล่าวว่า — “ด้วยความมุ่งมั่นในด้านความมั่นคงและแนวทางปฏิบัติ AI ที่มีจริยธรรม เรามุ่งไปที่การนำเสนอวิธีการ AI ที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเรา” “Autodesk AI จะยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม Autodesk ทั้งในผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ และบนคลาวด์อุตสาหกรรมของเรา เพื่อเป็นหนทางในการออกแบบและสร้างที่ดียิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน Autodesk AI มีพร้อมใช้งานแล้วในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Autodesk พร้อมด้วยความสามารถใหม่ๆ ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง Autodesk AI ได้เสริมความสามารถในการสำรวจและการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ทำงานวนซ้ำโดยอัตโนมัติเพื่อลดข้อผิดพลาดและให้เวลาทำงานได้โดยไม่ข้อจำกัด และการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการที่ซับซ้อน เพื่อเสนอความเข้าใจอย่างลึกสำหรับการคาดการณ์
งานสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง
- Autodesk Forma ช่วยให้การวิเคราะห์ลม เสียง และพลังงานที่ใช้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถวางแผนขั้นต้นและตัดสินใจออกแบบได้อย่างชาญฉลาดเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ที่ดีกว่า
- ใน InfoDrainage ซึ่งมี Machine Learning Deluge Tool จะให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับบ่อกักเก็บและหนองน้ำ เพื่อช่วยป้องกันหรือลดผลกระทบจากภัยพิบัติทางน้ำ
- AutoCAD ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อช่วยให้ผู้ร่างแบบสามารถเขียนซ้ำได้เร็วขึ้นโดยการอ่านมาร์กอัปที่เขียนด้วยลายมือและดิจิทัล โดยจะตัดสินใจจากเจตนาของผู้ใช้เพื่อให้ข้อแนะนำในการดำเนินการตามบริบท เพื่อให้ง่ายต่อการรวบรวมส่วนต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าไว้ด้วยกัน
- Construction IQ ใช้ AI เพื่อคาดการณ์ ป้องกัน และจัดการความเสี่ยงในการก่อสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพ ความปลอดภัย ต้นทุน หรือกำหนดการ
งานออกแบบผลิตภัณฑ์และการผลิต
- ความสามารถด้าน Generative AI ของ Blank.AI ที่ได้มาเมื่อเร็วๆ นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการสำรวจแบบในแนวความคิดสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และสามารถสร้าง สำรวจ และแก้ไขแบบจำลอง 3 มิติ ได้อย่างรวดเร็วในเวลาจริง โดยการควบคุมความหมายและใช้ภาษาธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ทักษะทางเทคนิคขั้นสูง
- ใน Autodesk Fusion สามารถสร้างงานออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับให้เหมาะสมกับวิธีการผลิต สมรรถนะ ต้นทุน และอื่นๆ ได้โดยอัตโนมัติ
- Fusion workflows ยังได้รับการพัฒนาเพื่อให้สามารถสร้างพาธเครื่องมือการผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAM) ในรูปแบบเทมเพลตโดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้สามารถปรับได้ตามต้องการ ส่วนการวาดภาพอัตโนมัติจะทำให้เกิดประสบการณ์เชิงโต้ตอบเกี่ยวกับการสร้างแผ่นงาน ตำแหน่งมุมมอง และเวิร์กโฟลว์คำอธิบายประกอบ
งานสื่อและความบันเทิง
- Generative scheduling ใน Autodesk Flow จะทำให้การจัดตารางเวลาสำหรับการผลิตสื่อและความบันเทิงเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยการจัดการกับตัวแปรที่เกิดขึ้นระหว่างทีมงานและงบประมาณที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา Generative scheduling จะสร้างผลลัพธ์กระบวนการออกมาในเวลาไม่กี่นาทีจากเมื่อก่อนต้องใช้เวลาหลายวัน ช่วยให้ทีมงานสามารถคาดการณ์ วางแผน และปรับขนาดทรัพยากรให้เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าแบนด์วิดท์ที่สร้างสรรค์เป็นไปอย่างที่ต้องการ
- Autodesk Flame ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อทำให้งานแบบแมนนวลเป็นไปโดยอัตโนมัติ เช่น การคีย์ การเปลี่ยนท้องฟ้า งานเสริมแต่งความงาม และการติดตามกล้องสำหรับศิลปิน เวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน Maya (ปัจจุบันอยู่ในช่วงเบต้า) ได้มอบวิธีการใหม่สำหรับศิลปินให้มีปฏิสัมพันธ์กับข้อมูลฉากของ Maya โดยการกระตุ้นเตือนด้วยข้อความที่เป็นภาษาธรรมชาติ
- ด้วยความร่วมมือกับ Wonder Dynamics จึงทำให้ AI ถูกเติมเข้าไปในปลั๊กอินของ Maya เพื่อใช้ในการสร้างภาพเคลื่อนไหว จัดแสง และเขียนตัวละครที่สร้างจากคอมพิวเตอร์สำหรับฉากแสดงสดโดยอัตโนมัติ
ที่มา: Autodesk, Inc.