LG Energy Solution (LGES) จะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของโรงงานแบตเตอรี่ที่สร้างขึ้นร่วมกับ General Motors (GM) ในรัฐมิชิแกน การที่ GM ถอนตัวออกจากโรงงานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลงและแรงจูงใจของภาครัฐในการผลิตพลังงานสะอาดในประเทศที่อาจลดลง
GM ไม่ได้เปิดเผยว่า LGES ซื้อโรงงานด้วยเงินเท่าไร โดย GM คาดว่าจะคืนทุนได้ประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการลงทุนรวมเริ่มต้นที่ GM และ LGES ประกาศไว้ที่จำนวน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไม่ชัดเจนว่าแต่ละบริษัทใช้จ่ายไปจำนวนเท่าไร
ตามรายงานจากสื่อต่าง ๆ ระบุว่า GM เพิ่งประกาศข้อตกลงไม่ผูกมัดกับ LGES ในการขายโรงงานแบตเตอรี่ Ultium Cells ที่ใกล้จะสร้างเสร็จแล้วในเมืองแลนซิง รัฐมิชิแกน การขายดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2025
GM และ LGES ได้ร่วมมือกันครั้งแรกในปี 2019 เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก นับตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองได้ทุ่มเงินรวมประมาณ 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโรงงาน 3 แห่งที่มีกำหนดสร้างเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 โดยเริ่มการผลิตในเบื้องต้นในช่วงต้นปี 2025 ได้แก่ โรงงานในแลนซิงที่ LGES กำลังเข้าซื้อ โรงงานในสปริงฮิลล์ รัฐเทนเนสซี และโรงงานในเมืองลอร์ดสทาวน์ รัฐโอไฮโอ ที่ผลิตเซลล์แบตเตอรี่มาตั้งแต่ปี 2022 เซลล์ที่ผลิตในโรงงานในรัฐโอไฮโอและเทนเนสซีนั้นใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะต่าง ๆ เช่น Chevrolet Silverado EV, GMC Sierra EV, Cadillac LYRIQ, Chevrolet Blazer EV และ Chevrolet Equinox EV รวมถึงรถกระบะและ SUV GMC Hummer EV
เนื่องจากโรงงานแห่งแรกที่ LGES เป็นเจ้าของทั้งหมดในสหรัฐฯ นั้น ตั้งอยู่ในมิชิแกนเช่นกัน หาก LGES เข้าซื้อโรงงานแห่งที่สามได้สำเร็จ ก็จะสามารถควบคุมปริมาณการผลิตจากมิชิแกนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกา
LGES กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือเกี่ยวกับการซื้อโรงงานแห่งที่ 3 ของ Ultium Cells โดยมุ่งหวังที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการลงทุนและการดำเนินงานในโรงงานในอเมริกาเหนือ และเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ให้สูงสุด โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อได้รับการยืนยันแล้ว
ในเดือนตุลาคม GM ได้ยกเลิกชื่อแบรนด์แบตเตอรี่ Ultium เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อนำเซลล์และสารเคมีประเภทใหม่มาใช้ เช่น แบตเตอรี่ลิเธียมไออนฟอสเฟต (LFP)
ในขณะที่ GM กำลังลดการลงทุนในการผลิตแบตเตอรี่ แต่ก็ยังคงรักษาความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับ LGES ไว้ได้ เมื่อไม่นานนี้ บริษัททั้งสองได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อดำเนินการวิจัยร่วมกันในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยเน้นที่การพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Prismatic โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ LGES พัฒนาแบตเตอรี่แบบ Prismatic ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านทานแรงกระแทกจากภายนอกได้ดี แต่มีประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ภายในที่ต่ำ
ที่มา : https://www.digitimes.com/news/a20241205PD214/lges-gm-battery-plant-ev-market.html