รายงานล่าสุดจากผลสำรวจของ Gartner ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ธุรกิจหลายแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นด้าน Sustainability หรือความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยการสำรวจในครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมาจากผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก 221 รายในธุรกิจที่มียอดขายเกินกว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี และมีผลสำรวจที่น่าสนใจดังนี้
- 87% ของผู้นำทางธุรกิจคาดหวังว่าจะมีการลงทุนด้าน Sustainability เพิ่มเติมภายในสองปี
- 80% ของผู้นำทางธุรกิจเห็นว่าลูกค้าคือกลุ่ม Stakeholder ที่สำคัญที่สุดในการลงทุนด้าน Sustainability ตามมาด้วยนักลงทุนที่ 60% และผู้กำกับดูแลตามกฎหมาย 55%
- 86% ของผู้นำทางธุรกิจเห็นว่าการลงทุนด้าน Sustainability จะช่วยปกป้ององค์กรจากการถูก Disrupt ในอนาคตได้
- 83% ของผู้นำทางธุรกิจเห็นว่ากิจกรรมด้าน Sustainability ได้สร้างคุณค่าให้กับองค์กรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
- 80% ของผู้นำทางธุรกิจระบุว่า Sustainability ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจได้
- ในการทำโครงการด้าน Sustainability ของธุรกิจ 65% พบว่าสามารถลดการใช้พลังงานและไฟฟ้าลงได้ 42% สามารถลดการเดินทางในการทำธุรกิจลงได้ 40% ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการทำธุรกรรมกับลูกค้าลงได้
- 57% ของผู้นำทางธุรกิจเห็นว่าโครงการด้าน Sustainability มีความสัมพันธ์อย่างมากกับรายรับของธุรกิจ
- 42% ของผู้นำทางธุรกิจใช้กิจกรรมด้าน Sustainability เป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและการเติบโตให้กับธุรกิจ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืน
โดยสรุปแล้ว โครงการด้าน Sustainability นี้สามารถช่วยธุรกิจได้ในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความพึงพอใจให้กับเหล่า Stakeholder, การลดตค่าใช้จ่ายทั้งในการดำเนินการและการจัดการ Supply Chain ไปจนถึงการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องระวังในการดำเนินโครงการด้าน Sustainability นั้นก็คือการตกไปสู่กับดักของการทำ Greenwashing ที่ทำการนำเสนอความยั่งยืนในเชิงของการตลาดและ PR เป็นหลัก แต่ไม่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในธุรกิจนั่นเอง