รอยเตอร์ : รายงานว่า CIA ถูกกล่าวหาว่าเริ่มปฏิบัติการลับเพื่อหลอกเจ้าหน้าที่จีน โดยอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 3 คน ที่ไม่เปิดเผยตัวตนให้ข้อมูลเชิงลึก ปฏิบัติการดังกล่าวของ CIA เป้าหมายเพื่อเปลี่ยนความคิดเห็นของสาธารณชนที่มีต่อรัฐบาลจีน ผ่านข่าวกรองที่รั่วไหลและข่าวเชิงลบบนโซเชียลมีเดีย
ในรายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มขึ้นในปี 2019 และมีเป้าหมายเพื่อสร้างความหวาดระแวงภายในรัฐบาลของสี จิ้นผิง ตามที่อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 3 คน ซึ่งพูดคุยกับสำนักข่าวภายใต้เงื่อนไขไม่เปิดเผยตัวตน ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ CIA ที่สร้างข้อมูลระบุตัวตนออนไลน์ปลอม เพื่อเผยแพร่เรื่องราวเชิงลบเกี่ยวกับรัฐบาลจีนบนโซเชียลมีเดีย
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ CIA สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียปลอมเพื่อเผยแพร่ข่าวลือ เช่น ข้อกล่าวหาว่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ซ่อนความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างมิชอบจากภายนอกประเทศ และวิพากษ์วิจารณ์ความคิดริเริ่มของรัฐบาลจีนในแง่ลบมุมต่าง ๆ เช่น การกล่าวว่าโครงการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอื่นแบบไม่ชอบมาพากล หรือ เป็นต้นตอของภัยก่อการร้ายทางไซเบอร์ เพื่ออ้างความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ
รอยเตอร์กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวซึ่งได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะนั้น ได้ดำเนินการนอกประเทศจีน และใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโน้มน้าวความคิดเห็นของประชาชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และแปซิฟิกใต้
เหตุการณ์ความพยายามของสหรัฐฯ ต่อจีน
ในขณะเดียวกัน นักการเมืองสหรัฐอเมริกันพยายามแบน TikTok โดยอ้างว่ารัฐบาลจีนสามารถใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อสอดแนมหรือมีอิทธิพลต่อผู้ใช้ และความพยายามก็นำมาสู่การประกาศบังคับให้ ByteDance ขายกิจการที่ดำเนินการในสหรัฐฯ ออกมาให้เจ้าของใหม่ที่เป็นของสหรัฐฯ เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถควบคุมความมั่นคงปลอดภัยได้ด้วยตนเอง โดยให้เวลาดำเนินการธุรกรรมดังกล่าวภายใน 6 เดือน มิเช่นนั้นจะแบนแอป TikTok ซึ่งมีผู้ใช้งานชาวอเมริกามากถึง 170 ล้านบัญชี พร้อมอ้างว่า เพื่อความปลอดภัยและมั่นคงแห่งชาติ
หรือเหตุการณ์ต่อมา ทางการสหรัฐฯ ได้อายัดรถยนต์หรูที่นำเข้าจากประเทศเยอรมันนีและยุโรปกว่า 1,000 คัน ด้วยข้อกล่าวหาว่า มีชิ้นส่วนประกอบจากจีน ซึ่งอาจนำมาสู่การสอดแนมข่าวกรองความมั่นคงของประเทศได้
หรือเหตุการณ์บังคับใช้นโยบายเพิ่มภาษีเฉพาะรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศจีน โดยโยนผลกระทบนี้ไปที่ประชาชนชาวอเมริกาซึ่งเป็นผู้บริโภคกลายเป็นตัวประกัน พร้อมประกาศว่า หากซื้อรถยนต์ที่นำเข้าหรือมีส่วนประกอบต้องห้ามจากจีน อาจจะไม่ได้รับอนุมัติเคลมภาษีที่รัฐฯ อุดหนุน 7,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือเหตุการณ์ สหรัฐฯ พยายามหาวิธีป้องกันไม่ให้บริษัทจีนส่งออกรถยนต์ EV จากเม็กซิโกเข้ามายังสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก BYD ไปตั้งโรงงานผลิตในประเทศเพื่อนบ้านสหรัฐฯ
จีนก็พยายามตอบโต้กลับสหรัฐฯ ด้วยการปรับลดราคารถยนต์ EV รุ่นประหยัดจากค่าย BYD ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้อที่หวังเคลมเงินภาษีจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้รถยนต์ราคาถูกไม่ง้อภาษี 7,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ในมุมของนักวิเคราะห์ของสหรัฐฯ มองว่า หากจีนเข้ามาในอเมริกาเต็มรูปแบบ อาจทำให้ผู้ผลิตหลายรายของสหรัฐฯ เดือดร้อนหนัก และยังส่งผลต่ออัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ในมุมสถานฑูตจีนในสหรัฐฯ กล่าวว่า การผลิตผลิตภัณฑ์ได้ในราคาประหยัด บ่งบอกถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของจีน
อย่างไรก็ตาม จีนยังมีแผนรับมือเรื่องนี้ไว้แล้ว ด้วยการขยายธุรกิจฐานการผลิตออกนอกประเทศจีน โดยจัดตั้งธุรกิจในแต่ละประเทศเพิ่มความหลากหลายในดำเนินการ และนอกจากนี้ ฝั่งรัฐบาลจีน ยังให้การสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผู้ผลิตต่าง ๆ ของจีน เพื่อเพิ่มศักยภาพและลดอัตราต้นทุนให้ต่ำลง เนื่องจากการแข่งขันในตลาดสูง และส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
หากข้อกล่าวหาของ CIA เป็นจริง ก็ไม่แปลกที่เราได้อ่านข่าวสหรัฐฯ พยายามกีดกันสินค้าจากจีนในทุกรูปแบบ หรือเป็นเพียงข้อกล่าวหา เราก็ยังได้เห็นสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และ จีน เกิดขึ้นอยู่ดี ใด ๆ ก็ตาม เพราะตลาดยังเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตทั่วโลก อยู่ที่กลยุทธ์ใครเด็ดกว่ากัน
ที่มา : https://www.reuters.com/business/autos-transportation/honda-nissan-sign-mou-comprehensive-ev-cooperation-nhk-reports-2024-03-15/ และ https://www.theverge.com/2024/3/14/24100984/cia-china-fake-social-media-spying และ https://www.audacy.com/wwjnewsradio/news/national/trump-reportedly-had-cia-launch-campaign-against-chinese-gov และ https://www.businessinsider.com/trump-authorized-cia-influence-campaign-chinese-government-2024-3