Collaborative Robotics ผู้นำด้านหุ่นยนต์ปฏิบัติงานร่วมกันหรือโคบอต ซึ่งก่อตั้งโดยทีมงานที่เคยช่วยกันผลักดันหุ่นยนต์ Amazon Robotics ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่า 500,000 ตัว ประกาศเปิดตัว Proxie โคบอตตัวแรกที่สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดการกับงานขนถ่ายวัสดุตามความต้องการ ซึ่งการขนถ่ายวัสดุนั้นเป็นงานที่ทำให้โลกยังคงเคลื่อนที่ต่อไป
Collaborative Robotics มีชื่อในการเป็นลูกค้ารายแรก ๆ ของบริษัทต่างๆ ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม อย่างเช่น Maersk, Mayo Clinic, Moderna, Owens & Minor และ Tampa General Hospital
โคบอต Proxie
โคบอต Proxie เป็นตัวแทนแห่งอนาคตในด้านการอัตโนมัติที่นำเอา AI ขั้นสูง ระบบการเคลื่อนที่ และระบบการควบคุมแบบมอดูลาร์ มาผสมผสานเข้ากับความสามารถในการรับรู้สถานการณ์ได้อย่างละเอียดเพื่อรองรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ได้แบบไร้รอยต่อ โดย Proxie สร้างขึ้นจากเสาหลักสามประการ คือ
- ไว้ใจได้ — Proxie ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ ช่วยเสริมความเชื่อมั่นในการทำงานระหว่างกันในทุกกรณี
- ปรับเปลี่ยนได้ — Proxie มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการจัดการขั้นสูง จึงเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมและการตั้งค่าการใช้งานที่หลากหลาย
- คุณประโยชน์ — เมื่อ Proxie ทำให้งานขนถ่ายวัสดุเป็นไปโดยอัตโนมัติ ทีมงานมนุษย์จึงสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สร้างผลกระทบที่สูงกว่าได้
อะไรที่ทำให้ Proxie ต่างจากโคบอตอื่น
Glide 360 — เป็นแพลตฟอร์มการเคลื่อนที่ของ Proxie ที่ใช้ง่าย เข้าใจง่าย และทำได้อย่างราบรื่น ช่วยให้การเคลื่อนที่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนทำได้ง่าย โดยเคลื่อนที่ไปรอบๆ คนและหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
Scout Sense — Proxie “มองเห็น” โลกในแบบเดียวกับที่มนุษย์มองเห็น โดยจับภาพสภาพแวดล้อมจากระดับสายตา ช่วยให้รับรู้สถานการณ์และมีความแม่นยำ ทำให้ประสานไปกับสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว
Flex Grasp — ออกแบบมาเพื่อจัดการกับความซับซ้อนได้โดยง่าย เป็นตัวควบคุมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ช่วยให้ Proxie ทำงานกับที่จับรถเข็น กล่อง และสิ่งของต่างๆ เป็นการตอบสนองการใช้งานตามความต้องการที่หลากหลายในอุตสาหกรรม
ออกแบบให้มีความรู้สึกร่วมกัน — ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างมั่นใจ โดยสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ของ Proxie ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อความเสถียรและความสมดุล อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน เช่น การแสดงออกด้วย “ตา” ช่วยสร้างความไว้วางใจในพื้นที่ทำงานร่วมกัน
ปัญญาหุ่นยนต์ — การขับเคลื่อนด้วย AI ขั้นสูง ทำให้ Proxie สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง และฉลาดขึ้นตามการอัปเดตความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ซึ่งการพัฒนาความฉลาดได้เรื่อยๆ นี้ ช่วยเพิ่มความสามารถของ Proxie ให้ทำงานร่วมกับผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้นตามภาวะการเติบโต
Brad Porter ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Collaborative Robotics กล่าวว่า — “ทุกวันนี้ งานง่ายๆ ที่ทำด้วยมือยังคงใช้เวลาและสิ้นเปลืองพลังงานมาก เราคิดอย่างละเอียดรอบคอบถึงวิธีการที่จะนำโคบอตแบบเคลื่อนที่ได้มาใช้ในสภาพแวดล้อมการทำงานประจำวัน ซึ่งไม่ใช่นำมาแทนพวกเรา แต่มาเพื่อช่วยพวกเรา” “การออกแบบทุกอย่างเกี่ยวกับ Proxie มีเจตนาเพื่อสร้างฐานความไว้วางใจระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์ ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง ลูกค้าของเราล้วนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีเป้าหมายอันทะเยอทะยาน ต้องการวิธีที่ให้ความยืดหยุ่นและชาญฉลาด”
ที่มา: Collaborative Robotics