Schneider Electric ผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในด้านการจัดการพลังงานและการอัตโนมัติ และ Capgemini ผู้นำระดับโลกการให้บริการด้านการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและเทคโนโลยี ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพทางพลังงาน ด้วยการออกแบบพัฒนา Energy Command Center (ศูนย์สั่งการพลังงาน) เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ เร่งไปสู่การจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกและประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้อย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
Energy Command Center ใช้ประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างวิธีการทางดิจิทัลและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยแบบ end-to-end ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อลดความซับซ้อนในการจัดการและปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุด
จากการวิเคราะห์ของ IEA ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า สัดส่วนของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น มากกว่าสามในสี่เป็นการปล่อยมาจากภาคพลังงาน ดังนั้นการนำไฟฟ้าสะอาดไปรวมกับเทคโนโลยีการจัดการพลังงานในรูปแบบดิจิทัล จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน
แพลตฟอร์มที่รวมงานต่างๆ ไว้ในที่เดียว
Energy Command Center ซึ่งพัฒนาโดย Capgemini และขับเคลื่อนโดย Schneider Electric เป็นแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์สำหรับการตรวจสอบ ควบคุม และปรับการใช้พลังงานของสินทรัพย์อาคารที่ใช้พลังงานทั้งหมดให้เหมาะสม รวมทั้งศูนย์ข้อมูล หรือห้องสภาพแวดล้อมวิกฤต (บางครั้งอาจจะเรียกว่า สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้มีเงื่อนไขทางสภาพแวดล้อมที่ต้องควบคุมอย่างละเอียดประณีต ทั้งอุณหภูมิ และคุณภาพอากาศ เช่น ห้องปฏิบัติการทดสอบ ห้องประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ห้องทางไฟฟ้า ฯลฯ)
แพลตฟอร์ม Energy Command Center ได้ผสมผสานทั้งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูง ตรรกะและอัลกอริธึมในการเรียนรู้ของเครื่อง และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อใช้วัดและคาดการณ์ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ความเข้มของพลังงาน ความสมบูรณ์ของสินทรัพย์ที่สำคัญ การดำเนินงานที่สำคัญ การกำเนิดพลังงานหมุนเวียน และสมรรถนะโดยรวมของสินทรัพย์พลังงานทั้งหมด
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมต่อ การควบคุมเอดจ์ และการปฏิบัติตามระบบการแนะนำของ Schneider Electric จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถบริหารการจ่ายพลังงานให้กับสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โรงงาน สำนักงาน หรือโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ลดการใช้พลังงานจากส่วนปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ให้มารวมกันอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว โดย Capgemini นำเอาความเชี่ยวชาญด้านการรวมและประมวลผลข้อมูล AI และการเรียนรู้ของเครื่อง และการบูรณาการผลิตภัณฑ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดมาไว้ในแพลตฟอร์มการตัดสินใจส่วนกลาง
ข้อมูลการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นข้อมูลในเวลาจริง จะถูกนำไปรวมกับซอฟต์แวร์และระบบการจัดการอาคารที่เป็นแบบมอดูลาร์และทำงานร่วมกันได้ ทำให้ Energy Command Center สามารถช่วยลดการใช้พลังงาน และช่วยให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรได้ ในขณะเดียวกันก็เร่งไปสู่อนาคตสุทธิเป็นศูนย์
Aiman Ezzat ซีอีโอของ Capgemini กล่าวว่า — “ที่ Capgemini เรามองเห็นและเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าที่นั่นมีศักยภาพอันเหลือเชื่อสำหรับเทคโนโลยีและข้อมูลทางดิจิทัลที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ต่อการเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และเราได้แบ่งปันวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นนี้ให้กับ Schneider Electric”
Peter Herweck ซีอีโอของ Schneider Electric กล่าวว่า — “การจัดการกับวิกฤติการณ์ทางพลังงานและสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญอย่างยิ่ง และประสิทธิภาพทางพลังงานมีบทบาทสำคัญต่อการบรรเทาความท้าทายเหล่านี้ การลดการปล่อยคาร์บอนในด้านไฟฟ้าและทำให้เป็นดิจิทัล คือ ความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน”
ลดการใช้พลังงานลง 29%
วิธีการต้นแบบได้รับการทดสอบมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ภายใต้การดำเนินงานของ Capgemini ในประเทศอินเดีย โดยมีร่องรอยการใช้พลังงานประมาณหนึ่งในสี่จากพื้นที่ปฏิบัติการทั้งหมดของ Capgemini Group ซึ่งเป็นการเฝ้าตรวจสอบในเวลาจริง และควบคุมการจ่ายพลังงานให้กับสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ลดการใช้พลังงาน และปรับการใช้พลังงานในส่วนปฏิบัติการต่างๆ ให้มีความเหมาะสมภายในแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์เพียงแห่งเดียว โดยในปี พ.ศ. 2566 สามารถลดการใช้พลังงานลง 29% (เมื่อเทียบกับปี 2562) ซึ่งเป็นการติดตามในพื้นที่ปฏิบัติการ 8 แห่งของ Capgemini ที่ตั้งอยู่ในอินเดีย แพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นส่วนสนับสนุนที่มีความสำคัญมากต่อการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตามจุดประสงค์ของ Capgemini Group ที่มา: Schneider Electric