วิธีการทางห้องปฏิบัติการแบตเตอรี่ภายในขอบเขตของซอฟต์แวร์จาก NI ช่วยเร่งการตรวจยืนยันผลแบตเตอรี่ของยานยนต์ไฟฟ้า

NI (เดิมชื่อ National Instruments) ประกาศเปิดตัววิธีการทางห้องปฏิบัติการแบตเตอรี่ภายในขอบเขตของซอฟต์แวร์ (Software-Defined Battery Lab) ออกแบบมาสำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบการตรวจยืนยันผล (validation) ของแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จครั้งสำคัญของ NI ด้วยข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับความสามารถในการทดสอบได้อย่างครอบคลุมทุกด้านของแบตเตอรี่ อย่างเช่นในการทดสอบวงจรอายุแบตเตอรี่ที่สร้างความยั่งยืน ตั้งแต่ขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงการตรวจยืนยันผล การผลิต ทุติยชีพ (second-life) และการนำมาผลิตซ้ำ (remanufacturing)

วิธีการทดสอบแบตเตอรี่ภายในขอบเขตของซอฟต์แวร์ของ NI ช่วยเร่งการตรวจยืนยันผลแบตเตอรี่สำหรับ EV (Photo: Business Wire)

Software-Defined Battery Lab เป็นครั้งแรกสำหรับวิธีการทดสอบแบตเตอรี่ภายในขอบเขตซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมที่สนับสนุนทั้งผู้ผลิต EV และผู้ส่งมอบแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันนี้ต้องต่อสู้กับแรงกดดันอันท้าทาย ทั้งจากการเร่งเวลาออกสู่ตลาด ต้นทุน และสมรรถนะของแบตเตอรี่ อีกทั้งยังต้องดำเนินการด้วยวิธีการที่เปิดกว้างและยืดหยุ่น วิธีการจากซอฟต์แวร์นี้จะช่วยตรวจยืนยันผลของแบตเตอรี่ และการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลแบตเตอรี่ได้ ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดกว้างและให้ความยืดหยุ่นต่อการปรับขยายการทดสอบการตรวจยืนยันผลแบตเตอรี่ทั่วโลก และปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีนวัตกรรมแบตเตอรี่ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

Software-Defined Battery Lab ได้นำเอาสิ่งที่คล้ายกันกับแนวคิดของ Software-Defined Vehicles ซึ่งเป็นการปฏิวัติวิธีการสำหรับทีมวิศวกรรมในการนำยานยนต์ออกสู่ตลาดและปรับปรุงสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยีแบตเตอรี่ได้รับการพัฒนาและเพิ่มจำนวนมากขึ้น บริษัทต่างๆ ก็จะสามารถเร่งพัฒนาระบบการทดสอบ รวมทั้งเพิ่มการลงทุนซ้ำในการทดสอบแบตเตอรี่ และสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลของแบตเตอรี่เพื่อนำไปปรับปรุงสมรรถนะโดยการปรับเปลี่ยนด้วยซอฟต์แวร์

Drita Roggenbuck รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจการขนส่งของ NI กล่าวว่า — “เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติด้านแบตเตอรี่” “บริษัทต่างๆ ต้องเผชิญทั้งการลดต้นทุนแบตเตอรี่ การเพิ่มสมรรถนะ การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และการปรับขยายตัว โดยมีเวลาเพียงช่วงสั้นๆ สำหรับจัดทำโปรแกรมให้กับยานยนต์ใหม่ซึ่งก็เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา อีกทั้งการตรวจยืนยันผลและการผลิตแบตเตอรี่ จะต้องสามารถรองรับการขยายตัวได้ทันทีและต่อเนื่องไปจนสิ้นทศวรรษ Software-Defined Battery Lab ของ NI นำเสนอการเปลี่ยนแปลงในขั้นตอนที่จำเป็นต่อการปรับปรุงเวลาในการออกสู่ตลาดและสมรรถนะของแบตเตอรี่ ผ่านระบบทดสอบและความเข้าใจการทดสอบในเชิงลึก”

วิธีการของ NI ช่วยให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่สามารถวางกลยุทธ์การทดสอบของตนเพื่อเพิ่มมูลค่าจากเงินลงทุนซ้ำให้ได้สูงสุด รวมทั้งอนุญาตให้ปรับแต่งการทดสอบเฉพาะตนได้ และสร้างความเป็นอิสระให้กับผู้ค้า ซึ่งแตกต่างไปจากวิธีการเดิมทั่วไป ที่จะต้องทดสอบแบตเตอรี่โดยวิธีการแยกเป็นส่วนๆ หรือดำเนินการกับผู้ค้าในแบบปิด

Henrik Rudelius ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจยืนยันผลและการจำลองระบบแบตเตอรี่ของ Northvolt กล่าวว่า — “ในขณะที่เรามีความท้าทายอยู่กับห่วงโซอุปทานที่จัดตั้งขึ้นมา สิ่งสำคัญคือ เราต้องเป็นเจ้าของกลยุทธ์การทดสอบของเราเอง จึงจะสามารถนำคุณลักษณะที่ต้องการไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงเป็นอิสระจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี” “เราต้องแน่ใจว่าเราสามารถใช้คุณลักษณะต่างๆ เพื่อให้ได้รับข้อมูลตามที่ต้องการ และตัดสินใจได้บนพื้นฐานของความจริง การเปิดกว้างนั้นช่วยเร่งให้เกิดรู้ความด้านผลิตภัณฑ์ของระบบแบตเตอรี่ของเรา ข้อมูลการทดสอบการตรวจยืนยันผลที่เราได้รับจากระบบของ NI ทำให้ทีมวิศวกรของเราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่ของเราได้มากขึ้น และสามารถค้นหาวิธีปรับปรุงแบตเตอรี่ได้แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในภาคสนามก็ตาม”

Software-Defined Battery Lab สร้างขึ้นจากความสามารถที่เป็นแกนหลักในการทดสอบแบตเตอรี่ของ NI ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของแพลตฟอร์มทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ NI ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว เพื่อจัดการกับการตรวจยืนยันผลแบตเตอรี่ที่มีจำนวนมากได้ วิธีการของ NI มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ชุดซอฟต์แวร์ เครื่องมือวัด และการบริการที่ครอบคลุมถึงส่วนที่จำเป็นต่อการสร้างการทดสอบให้มีความแข็งแกร่งและความสามารถในการจัดการข้อมูล นั่นคือ

ซอฟต์แวร์เพื่อการพัฒนาและดำเนินการทดสอบแบตเตอรี่ — ซอฟต์แวร์ทดสอบแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนโดย PAtools สำหรับปรับปรุงกระบวนการทดสอบ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลผลและดำเนินการกับผลการทดสอบด้วยความแม่นยำและเชื่อถือได้ ซอฟต์แวร์ทดสอบแบตเตอรี่ของ NI ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถในการทดสอบแบตเตอรี่ที่ไม่ธรรมดา ขณะเดียวกันก็อนุญาตให้ปรับแต่งและขยายความสามารถได้ผ่าน LabVIEW และซอฟต์แวร์ทดสอบทั่วไปรายอื่น

ซอฟต์แวร์เพื่อระบบห้องปฏิบัติการและการจัดการข้อมูล — ซอฟต์แวร์ NI SystemLink Enterprise ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน เป็นวิธีการที่ทำให้วิสาหกิจสามารถปรับขนาดได้ ทั้งการจัดการห้องปฏิบัติการ ปรับปรุงวิธีดำเนินการทดสอบ และวิเคราะห์ผลการทดสอบ เพื่อสกัดเอาข้อมูลเชิงลึกที่มีความหมายอันสำคัญจากข้อมูลการทดสอบและการวัด โดยมีฟังก์ชันในการจัดการสำหรับห้องปฏิบัติการ ได้แก่

• การติดตามคำร้องและกำหนดตารางเวลาในการทดสอบ
• การเฝ้าตรวจสถานะ การใช้งาน และสภาพของเครื่องทดสอบ
• การจัดการซอฟต์แวร์และการปรับใช้ในการทดสอบ
• การรวบรวมข้อมูลแบตเตอรี่ การทำให้เห็นเป็นภาพ และการวิเคราะห์

การเสนอชุดปฏิบัติการวัฏจักรแบตเตอรี่ และการบูรณาการกับบุคคลที่สาม — เป็นข้อเสนอสำหรับชุดปฏิบัติการวัฏจักรแบตเตอรี่ (Battery Cycler) ของ NI ด้วยความสามารถครอบคลุมในหลายด้าน มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเชื่อถือได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนจำเป็นต่อการพัฒนาแบตเตอรี่ในทุกขั้นตอน HPS-17000 เป็นชุดปฏิบัติการวัฏจักรรุ่นล่าสุดของ NI ให้กำลังไฟสูงสุด 150 กิโลวัตต์ เหมาะสำหรับการทดสอบในสภาพแวดล้อมของห้องปฏิบัติการที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีความสามารถในการปรับขนาดและซ่อมบำรุงได้ง่าย ซอฟต์แวร์แบบเปิดของ NI ช่วยให้สามารถบูรณาการเข้าด้วยกันกับชุดปฏิบัติการวัฏจักรแบตเตอรี่ของบุคคลที่สาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาและสามารถใช้งานซ้ำได้

ระบบการวัดและควบคุมแบตเตอรี่ — ฮาร์ดแวร์สำหรับการวัดและควบคุมแบตเตอรี่ของ NI สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ที่เป็นแบบมอดูลาร์และมีการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ของ NI ระบบเหล่านี้สามารถกำหนดค่าองค์ประกอบใหม่ได้ง่าย และปรับแต่งให้ตรงตามข้อกำหนดการทดสอบที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการบูรณาการเข้ากับส่วนประกอบของบุคคลที่สาม ส่วนระบบปฏิบัติการในแบบเวลาจริง มีความสามารถในการทำงานเชิงกำหนด (deterministic operation) ในขณะที่การควบคุมเวลาและการซิงโครไนซ์ที่มีอยู่ในตัวระบบ จะช่วยให้เพิ่มขนาดช่องและความสามารถในการวัดได้ง่าย

การบูรณาการและการสนับสนุนทางวิศวกรรมทั่วโลก — NI มีบริการด้านวิศวกรรมและเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางอยู่ทั่วโลก ทำให้มั่นใจได้ว่า การสนับสนุนในท้องถิ่นและการส่งมอบวิธีการทดสอบให้เป็นไปตามข้อกำหนดการใช้งานที่มีความหลากหลายได้

ที่มา: NI