Ansys ประกาศความร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนาวิธีการจำลองยุคถัดไปที่ขับเคลื่อนด้วยการประมวลผล และ Generative AI ที่ถูกเร่งให้เร็วขึ้น การขยายความร่วมมือนี้จะช่วยหลอมรวมเทคโนโลยีต่างๆ ที่ล้ำสมัยเข้าด้วยกันเพื่อก้าวไปสู่เทคโนโลยี 6G, เพิ่มพลังให้กับโปรแกรมตัวแก้ปัญหา (solvers) ของ Ansys ผ่าน NVIDIA GPU, รวม NVIDIA AI เข้ากับข้อเสนอด้านซอฟต์แวร์ของ Ansys, พัฒนาแฝดดิจิทัลที่บนฐานทางฟิสิกส์ และปรับแต่งโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาขึ้นจากบริการ NVIDIA AI Foundry
เมื่อไม่นานมานี้ Ansys ได้ร่วมมือกับ Alliance for OpenUSD (AOUSD) เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันทางข้อมูล และส่งมอบกราฟิกและการเรนเดอร์ภาพที่ดีขึ้นให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Ansys โดย Ansys ได้เชื่อมต่อ Ansys AVxcelerate Autonomy™ กับ NVIDIA DRIVE Sim ที่ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์ม NVIDIA Omniverse และยังวางแผนที่จะตรวจสอบการผสานรวมเพิ่มอีกให้ทั่วทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ นั่นคือ Ansys STK™, Ansys LS-DYNA™, Ansys Fluent™ และ Ansys Perceive EM ซึ่งการทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับมือกับความท้าทายที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับโรงงาน ไปจนถึงการจำลองระดับส่วนต่างๆ ที่อยู่รายรอบ
นอกจากการบูรณาการเข้ากับ Omniverse แล้ว การทำงานร่วมกันนี้ยังเป็นการจัดลำดับความสำคัญของความก้าวหน้าในสี่ด้าน คือ
การเร่งความเร็วการประมวลผล
การทำงานร่วมกันระหว่าง Ansys กับ NVIDIA จะช่วยให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถลดรอบการออกแบบและเพิ่มการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนได้ด้วยการพัฒนาการวิจัยเชิงตัวเลขของการประมวลผลสมรรถนะสูง โดย Ansys ใช้ประโยชน์จาก NVIDIA H100 Tensor Core GPU เพื่อเพิ่มวิธีการจำลองเป็นทวีคูณ และจัดลำดับความสำคัญของโปรเซสเซอร์ที่ใช้ NVIDIA Blackwell และ NVIDIA Grace Hopper Superchips ภายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Ansys ซึ่งรวมถึง Ansys Fluent, Ansys LS-Dyna และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ของ Ansys ในขณะเดียวกัน NVIDIA ก็ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ Ansys รวมถึงเครื่องมือเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับโมเดลเสมือนและการออกแบบศูนย์ข้อมูล ซึ่งท้ายที่สุดเป็นการนำไปสู่การเร่งสมรรถนะตัวแก้ปัญหาของ Ansys
โทรคมนาคมยุค 6G
Ansys เป็นหนึ่งในผู้ใช้แพลตฟอร์ม NVIDIA 6G Research Cloud กลุ่มแรก แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้นักวิจัยมีชุดโปรแกรมที่ครอบคลุมสำหรับพัฒนา AI ที่ใช้กับเทคโนโลยีเครือข่ายการเข้าถึงวิทยุ (RAN; Radio Access Network) ขณะที่ Ansys Perceive EM เป็นโปรแกรมตัวแก้ปัญหาใหม่ที่ขับเคลื่อนโดย Ansys HFSS™ และสร้างอยู่บน NVIDIA 6G Research Cloud ที่ออกแบบมาเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี 6G ส่วนข้อมูลจากการสังเคราะห์ตามความต้องการของ Perceive EM ได้ปฏิวัติแฝดดิจิทัลบนระบบ 6G โดยยกระดับการทำนายให้มีความแม่นยำสูงขึ้น สามารถประเมินได้ว่า สภาวะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นส่งผลต่อสมรรถนะของเครือข่ายไร้สายอย่างไร นอกจากนี้ Perceive EM ยังมีส่วนที่ให้บริการภายใน คือ Ansys Academic และ Ansys Startup Programs ซึ่งมีการเข้าใช้งานจากมหาวิทยาลัยมากกว่า 2,900 แห่ง และบริษัทสตาร์ตอัป 2,100 แห่ง
การจำลองที่ดีขึ้นด้วย AI
Ansys กำลังสำรวจเฟรมเวิร์ก NVIDIA Modulus สำหรับการเรียนรู้ของเครื่องที่อยู่บนฐานทางฟิสิกส์ เพื่อยกระดับการนำเสนอซอฟต์แวร์ด้วยเทคนิค AI ล่าสุด งานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบฟังก์ชันการทำงานที่ดีขึ้นภายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ansys AI+ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสมที่สุด การวิเคราะห์ความไว และการออกแบบที่แข็งแกร่ง
AI Foundry
Ansys กำลังตรวจสอบการนำ NVIDIA AI Foundry มาใช้เพื่อพัฒนา LLM ขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการจำลองให้มีความเสมอภาค โดยทำให้การตั้งค่าและการใช้งานทำได้ง่ายๆ นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการตัดแต่ง LLM ให้เหมาะกับวิธีการของ Ansys เพื่อมอบศักยภาพการให้ความช่วยเหลือในแบบเสมือนโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่ผู้ใช้รายใหม่ และสร้างกรณีการใช้งานการจำลองใหม่ๆ อีกทั้ง Ansys ยังตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม NVIDIA NeMo ซึ่งมีชุดเครื่องมือที่ทำให้ง่ายขึ้น คุ้มค่ามากขึ้น และการพัฒนาความสามารถ Generative AI ทำได้เร็วขึ้น
Ajei Gopal ประธานและซีอีโอของ Ansys กล่าวว่า — “ภายในอาณาจักรของ NVIDIA Omniverse ที่เต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ ลูกค้าที่มีวิสัยทัศน์ของเราสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรม และสร้างสะพานเชื่อมความจริงเสมือนเข้ากับความจริงทางกายภาพ เพื่อกำหนดทิศทางของเทคโนโลยีแห่งอนาคต และมุ่งแก้ปัญหาทางวิศวกรรมที่มีความท้าทายอย่างเร่งด่วนที่สุดในยุคของเรา”
Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่า — “ทุกสิ่งที่ผลิตขึ้นจะมีแฝดดิจิทัล และนักออกแบบและวิศวกรของโลกในตลาดอุตสาหกรรมหนัก ต่างให้ความเชื่อมั่นกับ Ansys ในการเป็นเครื่องมือจำลองงานของพวกเขา” “เรากำลังร่วมมือกับ Ansys เพื่อนำการประมวลผล และ Generative AI ที่ถูกเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อรองรับภาระงานจำนวนมหาศาลเหล่านี้ และขยายการใช้เครื่องมือจำลองฟิสิกส์ชั้นนำของ Ansys กับเทคโนโลยี NVIDIA Omniverse ในการทำให้เป็นดิจิทัล”
ที่มา: Ansys