24M ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ชั้นนำ มีสำนักงานใหญ่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ประกาศดำเนินการโรงงานผลิต และการวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันและควบรวมกิจการกับ Nuovo+ (นูออโว พลัส) ซึ่งเป็นพันธมิตรและผู้ได้รับอนุญาตของ 24M โดยโรงงานแห่งนี้ได้บูรณาการอย่างเต็มระบบ มีขนาด 71,000 ตารางฟุต (6,600 ตารางเมตร) และนำร่องด้วยความสามารถในการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ 24M SemiSolid™ ได้มากถึง 100 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง)
อุปกรณ์การผลิตสำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้จะช่วยเร่งการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของ 24M ออกสู่ตลาด และสามารถทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและตอบสนองต่อพันธมิตรทั่วโลกได้มากขึ้น โดย 24M เริ่มการผลิตนำร่องที่โรงงานระยอง ให้กับ OEM ด้านยานยนต์ชั้นนำที่มีฐานอยู่ในประเทศอินเดียแล้ว และจะส่งมอบตัวอย่างเพื่อการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนจะถึงช่วงปลายปีนี้
Naoki Ota ประธานและซีอีโอของ 24M กล่าวว่า — “โรงงานแห่งใหม่ของเราที่ระยอง เป็นฐานที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการแสดงศักยภาพในเชิงพาณิชย์และนวัตกรรมอันล้ำสมัยอย่างเต็มที่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของ 24M” “สิ่งอำนวยความสะดวกของโรงงานแห่งนี้ บ่งบอกได้ถึงคุณประโยชน์อันมากมายที่มีต่อทรัพย์สินในครอบครองของเรา ทั้งในด้านความปลอดภัย ต้นทุน ระยะทาง และการรีไซเคิล และเร่งการนำผลิตภัณฑ์ของเราออกสู่ตลาด”
โรงงานที่ระยองมาจากการเข้าซื้อกิจการเมื่อไม่นานมานี้ และได้เริ่มดำเนินการผลิตนำร่องอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นการสาธิต การพัฒนา และการส่งมอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมหลักต่างๆ ของ 24M ได้แก่
- 24M SemiSolid และ 24M Liforever™ — โรงงานแห่งนี้มีศักยภาพที่จะทำให้ 24M สามารถดำเนินการในเชิงพาณิชย์สำหรับการผลิต 24M SemiSolid ซึ่งเป็นอิเล็กโทรดแบบไม่มีสารยึดเกาะ (binder-less) และการพัฒนา 24M Liforever ซึ่งเป็นกระบวนการรีไซเคิลโดยตรง ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้นทุนลดลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการรีไซเคิลวัสดุแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งานแล้ว รวมถึงแกรไฟต์ และ LFP (Lithium Iron Phosphate) ซึ่งเป็นวัสดุที่มักจะถูกทิ้งไป ถือเป็นกระบวนการแรกที่สาธิตวิธีการรีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่หมดอายุการใช้งานแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ และผลิตวัสดุที่ใช้งานได้จริงโดยที่แทบไม่มี CO₂
- 24M Impervio™ — มีการเปลี่ยนแปลงในตัวกั้นแยกเซลล์แบตเตอรี่ ที่จะช่วยแก้ปัญหาและลดความกังวลเกี่ยวกับไฟไหม้แบตเตอรี่ที่ใช้ในยานยนต์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน สมาร์ทโฟน รวมทั้งการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอื่นๆ ทั้งหมด โดยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยนี้จะช่วยป้องกันไฟไหม้ที่เป็นภัยร้ายแรง และการเรียกคืนจำนวนมากอันเนื่องมาจากเกิดการลัดวงจรภายใน โดยที่ Impervio จะป้องกันไม่ให้เดนไดรต์ (โครงสร้างผลึกอย่างหนึ่ง) ของโลหะและลิเธียมแพร่กระจายตัว ไม่ว่าจะเกิดจากข้อบกพร่องของกระบวนการ เช่น มีโลหะเจือปน การจัดตำแหน่งอิเล็กโทรดไม่ถูกต้อง ตัวกั้นแยกเกิดรอยย่น หรือเกิดการก่อตัวของเดนไดรต์ลิเธียมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเกิดขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันข้อผิดพร่อง โดย Impervio สามารถตรวจจับการลัดวงจรภายในได้ก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น เพื่อให้การใช้งานปราศจากความล้มเหลว และขจัดการเรียกคืนจำนวนมาก
- Unit Cell และ 24M ETOP™ — แพลตฟอร์มการผลิตของ 24M ได้สร้างคู่แคโทด-แอโนดเป็นแบบปิดผนึก ซึ่งเป็นการขจัดเซลล์และมอดูลออกไป จึงทำให้สามารถรวมอิเล็กโทรดเข้าไว้ในแพ็กได้โดยตรง กระบวนการนี้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการแพ็กได้มากถึง 40% ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงกระบวนการประกอบและลดปริมาณวัสดุที่จำเป็น และเมื่อรวมกันแล้วจะได้แพ็กแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น โดยที่ต้นทุนลดลง
- Lithium Metal — 24M จะรวมเอาทรัพย์สินทางเทคโนโลยีในการครอบครอง รวมถึง 24M Eternalyte™ ซึ่งเป็นอิเล็กโทรไลต์ลิเธียมเมทัลแบบใหม่มาใช้ในการผลิต เพื่อทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ปลอดภัย และมีความหนาแน่นพลังงานสูง นวัตกรรมเหล่านี้มีนัยสำคัญต่อการเพิ่มรอบอายุการใช้งานและอัตราการชาร์จด่วนของแบตเตอรี่ลิเธียมเมทัล โดยสามารถผลิตแบตเตอรี่ที่ส่งมอบระยะการเดินทางได้ 1,000 ไมล์ (ประมาณ 1600 กม.) ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญ จากเดิมที่เมื่อก่อนนี้เคยคิดกันว่าทำไม่ได้
Nuovo+ เข้าลงทุนใน 24M Technologies และถ่ายโอนโรงงานในระยอง
ในการดำเนินการแบบควบคู่กันกับโรงงานใหม่แห่งนี้ Nuovo+ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ปตท. และ Global Power Synergy PLC (GPSC) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นระยะยาวและเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ของ 24M จะนำรายได้จากการขายทรัพย์สินโรงงานมาซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ 24 ล้านหุ้น มูลค่า 51.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนซีรีส์ H ล่าสุด
ดรุณพร กมลภัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด กล่าวว่า — “นูออโว พลัส มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อ 24M และจะเข้าซื้อหุ้นของ 24M ด้วยความเชื่อมั่นว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจแบตเตอรี่ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์และการใช้ประโยชน์จากโรงงานของเราที่จังหวัดระยอง ภายใต้การนำของ 24M เราเชื่อว่าการผลิตนำร่อง และการวิจัยและพัฒนานี้จะช่วยเร่งการสาธิตเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของ 24M และส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างและขยายการดำเนินการโรงงานในระดับการพาณิชย์ได้เร็วขึ้น” “เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อ 24M เราจะใช้เงินทุนที่ได้จากการขายโรงงานนี้เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของเราในบริษัท”